พระนครศรีอยุธยา - สาธารณสุขกรุงเก่าเผย 232 วันยันยังไม่พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในพื้นที่ วอนประชาชนอย่าหลงเชื่อ Fake News ทุกกรณี ในตอนนี้ ควรติดตามจากทางสาธารณสุขโดยตรง
วันนี้ (8 ธ.ค.) นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไม่มีผู้ป่วย COVID-19 มา 232 วันแล้วก็คือเกือบ 8 เดือน ซึ่งจังหวัดเราเป็นจังหวัดที่ใหญ่ มีคนผ่านไป ผ่านมาเยอะ เพราะฉะนั้นเรามีระบบของเรา ในการสแกนไข้ ให้สวมหน้ากากอนามัย และก็มีการล้างมือ การเว้นระยะห่าง การสแกนแอปพลิเคชันไทยชนะ ก็ขอให้พี่น้องประชาชน ติดตามข่าวจากเฟซบุ๊ก หรือเว็บไซต์ ของทางสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เนื่องจากปัจจุบัน อาจจะมี Fake News อาจจะเกิดการเข้าใจผิด อย่างเช่นกรณีวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่มีผู้ป่วยท้องร่วงแล้วเป็นโควิด เราได้ทำการตรวจพบแล้วว่าเป็นเชื้อแบททีเรียชาลโมเนลลา ปนเปื้อนในอาหารและน้ำดื่มที่ไม่สะอาด ซึ่งมีผู้ป่วยถึง 60 กว่าคนเราใช้ความร่วมมือในจังหวัดและกระจายไปทุกโรงพยาบาลที่ผ่านมา ตอนนี้กลับบ้านได้ทุกราย ไม่มีผู้ป่วยอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว และก็เข้าไปแนะนำที่วิทยาลัยแห่งนั้น เรื่องของอาหารของดิบต่างๆต้องปรุงให้สุข ผู้ประกอบอาหารต้องล้างมือให้สะอาด และเวลาเดียวกันมีนักเรียนที่กลับมาจากประเทศเพื่อนบ้านเรา เข้ามาเรียนและก็มีไข้ เราก็ส่งไปตรวจหาโควิดก็ไม่พบ ผลออกมาตั้งแต่วันก่อนแล้ว ทั้งผู้ที่ไปและสัมผัส รวม 5 ราย ก็ไม่พบว่ามีใครติดเชื้อ
สำหรับโรงเรียนที่สั่งปิด ของอำเภออุทัย เราก็ได้มีการเช็คตรวจสอบ พบผู้ปกครองพ่อของเด็กเป็นแรงงานเพื่อนบ้านเราและก็มีแม่กับลูกอีก 2 คน 3 ขวบกับ 7 ขวบ เข้ามาทางด้านสังขละ กาญจนบุรี แม่กับลูก 3 ขวบจับ ตม.ส่งกลับ ลูก 7 ขวบ มูลนิธิรับไปและก็ส่งให้พ่อที่ อำเภออุทัย ซึ่งในเด็ก 7 ขวบได้มีการตรวจโควิดแล้วไม่พบที่ด่านแล้ว และมาอยู่กับพ่อที่เป็นแรงงานในอำเภออุทัย
ในส่วนนี้ก็มีเด็กอายุ 14 ปีอยู่ในโรงเรียน ซึ่งทางโรงเรียนทราบข่าวก็กังวนใจว่าเป็นผู้เสี่ยงหรือไม่ แต่ว่าเราก็ตรวจเด็ก 7 ขวบที่มาอยู่กับพ่ออีกครั้ง ตรวจแล้ว 14 วันก็ไม่พบเชื้อ แสดงว่าตรงนี้ไม่มีความเสี่ยง เด็กมัธยมที่ว่า 14 ปี ไม่ได้เป็นคนเสี่ยงเลย แต่ว่าโรงเรียนเพื่อความสบายใจก็ปิดทำความสะอาด จะปิดได้ก็ต่อเมื่อมีผู้ป่วยยืนยันว่าเป็นโควิด แต่กรณีนี้เป็นอำนาจของทางโรงเรียนว่าถ้าอยากจะปิดเพื่อทำความสะอาดเขาก็ปิดได้เป็นอำนาจขอผู้อำนวยการ
อีกกรณีในรายที่ สิงห์บุรี ได้มาแวะทานอาหารวันที่ 28 พ.ย.เขาพึ่งติดเชื้อจากสนามบินที่เขามาพอมาถึงอยุธยาก็แวะทานข้าวแป๊บเดียวแล้วก็ไป ซึ่งมีอาการวันที่ 2 ธ.ค. ระยะการเพาะเชื้อก็อยู่ระหว่างวันที่ 1 ธ.ค. และ 30 ซึ่งวันที่ 28 พ.ย. แวะ ที่มา ยังไม่ได้ป่วยเลย ก็ถือว่าไม่เสี่ยงแต่ได้ให้ร้านปิดทำความสะอาดและก็แนะนำให้ป้องกันเบื้องต้น แต่ก็ถือว่าเข้าข่ายไม่ได้เสี่ยง
แต่อย่างไรก็ตามขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันปกป้องดูแลตัวเอง สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ เจลแอลกอฮอล์ เพื่อความปลอดภัยในสุขภาพของพี่น้องประชาชนทุกๆคน