xs
xsm
sm
md
lg

“คำชะโนด” โพสต์ขออภัยพี่น้องจาวเจียงใหม่เจียงฮาย ยอมรับผิดใช้ข้อความไม่เหมาะสม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อุดรธานี - กรรมการบริหารคำชะโนดโพสต์ขอประทานอภัยที่ใช้ข้อความไม่เหมาะสมต่อนักท่องเที่ยวชาวเชียงราย เชียงใหม่ ทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน ย้ำยินดีต้อนรับเข้าสักการะปู่ย่าพญานาคได้ปกติตามมาตรการสาธารณสุข โดยวันนี้มีพี่น้องชาวเจียงใหม่เจียงฮายมาเยือนคำชะโนดอย่างน้อย 2 คันรถบัส


จากกรณีในแฟนเพจศูนย์อำนวยการคำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี โพสต์ประกาศว่า เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 ใน จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย เพื่อให้การควบคุมโรคไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด จึงขอให้คณะกรรมการคำชะโนดไม่รับนักท่องเที่ยวที่มาจาก 2 จังหวัดดังกล่าว จนถึงวันที่ 14 ธ.ค. 63 ขออภัยนักท่องเที่ยวในความไม่สะดวกนะคะ

หลังจากถูกแชร์โพสต์ ผู้คนในสังคมออนไลน์ได้วิพากษ์วิจารณ์ ตำหนิกันอย่างมาก เพราะเป็นการแสดงออกถึงความรังเกียจชาวเหนือชาวเชียงใหม่เชียงรายอย่างไม่มีเหตุผลเพียงพอ ซึ่งมาตรการป้องกันโควิด-19 มีหลากหลายวิธีที่สามารถนำมาปรับใช้ได้

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดช่วงสายวันนี้ (8 ธ.ค.) เพจศูนย์อำนวยการคำชะโนดฯ ได้โพสต์ข้อความใหม่ ระบุว่า ตามที่ปรากฏข่าวสารเกี่ยวกับข้อความการเข้าสักการะในพื้นที่คำชะโนดของชาวจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่นั้น คณะกรรมการบริหารคำชะโนดต้องขอประทานอภัยต่อป้ายข้อความดังกล่าวที่จัดทำขึ้นโดยความเข้าใจคลาดเคลื่อนในขณะนั้น และอาจใช้ข้อความที่ไม่เหมาะสม

ดังนั้น ขอเรียนว่าขณะนี้ทุกท่านสามารถเข้าสักการะได้ตามปกติตามมาตรการของสาธารณสุข ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารคำชะโนดจะได้ระมัดระวังการจัดทำข้อความต่างๆ ให้มากที่สุดต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ


นายพงษ์ศักดิ์ ศรีชนะ กำนันตำบลบ้านม่วง อ.บ้านดุง ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการบริหารคำชะโนดได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวต่อกรณีดังกล่าวว่า ข้อความดังกล่าวคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริง เพราะนักท่องเที่ยวที่มาจากจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ยังสามารถเข้าเที่ยวชม กราบไหว้ขอพรจากปู่พญานาคศรีสุทโธและย่าปทุมมาได้ตามปกติ อย่างกรณีวันนี้ก็มีนักท่องเที่ยวมาจากเชียงใหม่และเชียงราย 2 คันรถบัส โดยช่วงเช้าเป็นทัวร์จากเชียงใหม่ 43 คน

ต้องเตรียมบัตรประชาชนสแกนก่อนเข้าเกาะ


นายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารคำชะโนดไม่ได้รังเกียจนักท่องเที่ยวจากเชียงใหม่-เชียงรายแต่อย่างใด ยินดีต้อนรับเสมอ เพียงแต่ในห้วงนี้เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย นักท่องเที่ยวหรือนักแสวงบุญที่มาจาก 2 จังหวัดดังกล่าวจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ

คือแยกกลุ่มออกจากนักท่องเที่ยวที่มาจากที่อื่น ไม่ปะปนกับกลุ่มทั่วไป และทุกคนต้องสแกนบัตรประชาชนแสดงตัวตนชัดเจน

“สำคัญที่สุดนักท่องเที่ยวทุกคนไม่ว่าจะมาจากภูมิลำเนาใด ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคของสาธารณสุข คือ วัดไข้ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และรักษาระยะห่างให้พอเหมาะ เพียงแค่นี้ก็โอเคแล้ว” นายสมศักดิ์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น