กระทรวงสาธารณสุข สั่งการให้ทุกจังหวัดเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคโควิด-19 ประเมินสถานการณ์และเตรียมพร้อมรองรับทุกด้าน พร้อมเฝ้าระวังผู้ป่วยปอดบวม โรคทางเดินหายใจ ส่ง อสม.เคาะประตูบ้านแจ้งข่าวและคัดกรองกลุ่มเสี่ยง พร้อมคุมเข้มสถานประกอบการทำตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด
วันนี้ (8 ธ.ค.) เฟซบุ๊กแฟนเพจ “ศูนย์ข้อมูล COVID-19” รายงานข้อมูลเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. กรณี นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โรคโควิด-19 มีแนวโน้มการระบาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น ไทยเราต้องเตรียมความพร้อมรับมือ ซึ่งขณะนี้พบผู้ป่วยที่ลักลอบข้ามพรมแดนธรรมชาติมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา แต่สามารถนำเข้ารับการกักตัว ดูแลรักษา ติดตามผู้สัมผัสได้ครบ พร้อมกำชับให้เข้มข้นมาตรการป้องกันควบคุมโรคพื้นที่ชายแดน รวมทั้งให้กรมควบคุมโรควิเคราะห์รูปแบบความเสี่ยงอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อป้องกันโอกาสการนำเชื้อเข้าประเทศ จึงสั่งการให้ทุกจังหวัดเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคโควิด-19 พร้อมปฏิบัติตามข้อสั่งการ ดังนี้
1. ติดตามและประเมินสถานการณ์ภายในจังหวัด
2. เตรียมความพร้อมโรงพยาบาล เวชภัณฑ์ ห้องปฏิบัติการ และบุคลากรด้านการรักษาพยาบาล
3. เฝ้าระวังผู้ป่วยโรคปอดบวมและผู้ป่วยในคลินิกโรคทางเดินหายใจ (ARI) ตามเกณฑ์ของกองระบาดวิทยาอย่างเคร่งครัด
4. ส่ง อสม.เคาะประตูบ้านแจ้งข่าวประชาชนและคัดกรองกลุ่มเสี่ยง สื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องไปยังประชาชนพร้อมขอความร่วมมือ
5. เปิดสายด่วน (Call Center) ให้กลุ่มเสี่ยงรายงานตัว
6. แนะนำมาตรการต่างๆ ต่อประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด รวมทั้งกำกับให้สถานประกอบการในพื้นที่ โดยเฉพาะสถานบันเทิง ต้องให้ความรู้และให้กำลังใจ เพื่อให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคได้ตามมาตรฐาน
นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวด้วยว่า ขอให้กำลังใจทั้งประชาชนและบุคลากร อย่าประมาท การ์ดอย่าตก ส่วนกลางพร้อมสนับสนุนการทำงานทุกๆ ด้านให้แก่จังหวัด เราได้สำรองเวชภัณฑ์ เช่น หน้ากากอนามัย ชุด PPE ยา ฯลฯ ไว้สนับสนุนพื้นที่ หากสำรวจแล้วมีไม่เพียงพอ ให้ประสานขอรับการสนับสนุนที่กองสาธารณสุขฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง