เชียงราย - ยังดีเป็นกลุ่มที่ขอกลับเข้าไทยผ่านด่านฯ ถูกต้อง..พบสาว 1G1 ท่าขี้เหล็กติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 3 รายรวด คาดยังมีอีกเพียบ เบื้องต้นอัตราติดไวรัสอาจอยู่ในระดับ 30-50% จนต้องเพิ่ม Local Quarantine รองรับ
วันนี้ (3 ธ.ค.) นายแพทย์ หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการ กระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางไปตรวจดูการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย เชื่อมกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า
หลังจากวานนี้ (2 ธ.ค.) ได้มีการรับตัวคนไทยที่เดินทางกลับมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก จำนวน 31 คน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นหญิงสาวที่ทำงานในโรงแรม 1G1 ท่าขี้เหล็ก แหล่งที่มีการแพร่ระบาดของโรคที่ได้ถูกปิดตัวลงหลังมีการพบผู้ติดเชื้อ และเจ้าหน้าที่ได้นำรถพระราชทานเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยตรวจหาเชื้อในผู้ที่เดินทางเข้ามาทั้งหมด
ล่าสุดพบผู้ที่เดินทางกลับมาแล้วติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 3 ราย ทั้งหมดเป็นหญิงสาวที่เคยทำงานอยู่โรงแรม 1G1 ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงรายได้นำตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์แล้ว ส่วนคนอื่นๆ ที่รอตรวจให้พักที่ศูนย์กักดูอาการหรือ Local Quarantine ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพิ่มเติมที่ชายแดน อ.แม่สาย อีก 2 แห่ง รองรับได้จำนวนประมาณ 200-300 คน ทำให้ปัจจุบัน จ.เชียงรายมี Local Quarantine จำนวน 5 แห่ง ทั้งในเขต อ.เมืองเชียงราย อ.แม่ลาว อ.แม่จัน และ อ.แม่สาย
นายแพทย์ หม่อมหลวงสมชายกล่าวว่า ได้มีการประเมินว่าหากผู้ที่ตกค้างอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านถูกส่งกลับมาจำนวน 180 คนเราจะรองรับอย่างไรไว้แล้ว ซึ่งก็ได้มีการจัดเตรียนมสถานที่ อุปกรณ์ บุคลากรเอาไว้รองรับพร้อมสรรพ เพราะเบื้องต้นทุกคนที่เข้ามาจะต้องมีการตรวจหาเชื้อ หากพบก็จะได้รักษาได้ทันที
“ตอนนี้มีข้อมูลล่าสุดเข้ามาว่ามีคนไทยเป็นพนักงานบริการทั้งหมด เช่น คนครัว คนบริการ ฯลฯ ตกค้างอยู่ในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งประมาณ 80 กว่าคน ซึ่งถ้าเขาข้ามมาเราต้องรับเข้ามาดูแล”
ด้าน นายแพทย์ ศิริศักดิ์ นันทะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สาย กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจหาเชื้อคนไทยจากโรงแรม 1G1 ผู้ที่เดินทางผ่านด่านฯ เข้ามาอย่างถูกต้องในหลักสิบอยู่ แต่ก็จะดำเนินการไปเรื่อยๆ คาดว่าจะมีผลบวกประมาณ 50% เพราะจากการตรวจไปแล้ว 6 ราย พบผลบวก 3 ราย และกรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อใน อ.เมืองเชียงราย 3 รายก็พบติดเชื้อ 1 ราย
กรณีมีเป้าหมายจากโรงแรม 1G1 จำนวน 50-72 คน อาจจะมีอัตราผู้ติดเชื้อ 30-50% ดังนั้นคงจะต้องมีการตรวจสอบรายชื่อและที่มาให้ชัดเจนเพื่อจัดทำแผนที่บุคคลเอาไว้เพื่อป้องกันความเสี่ยง เพราะเมื่อเราทราบแหล่งที่มาของโรคว่ายังมาจากแหล่งเดียวกับหญิงสาวที่ลักลอบเข้ามาประเทศไทยแล้วพบว่าติดเชื้อจำนวน 10 ราย ก็จะช่วยให้สามารถควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคได้ดีขึ้น
