เชียงราย - ยอดผู้ป่วยโควิดสะสมท่าขี้เหล็กเพิ่มไม่หยุด วันนี้เจออีก 15 ราย พบคนไทยข้ามฝั่งทำงานใน “โรงแรม 1G1 ท่าขี้เหล็ก-ต้นทางแพร่เชื้อ” มากถึง 180 คน กลับผ่านด่านฯ แม่สายแล้ว 31 แจ้งความประสงค์เพิ่ม 17 ราย
วันนี้ (2 ธ.ค.) พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ได้ร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสกัดกั้นไวรัสโควิด-19 ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย พร้อมแจ้งว่าหน่วยฯ ได้เพิ่มกำลังพลเข้าสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองผ่านแนวชายแดนอีก 80 นาย
และได้ประสานกับทุกภาคส่วน รวมถึงคณะกรรมการชายแดนไทย-พม่าระดับท้องถิ่นหรือทีบีซี เพื่อใช้มาตรการคุมเข้มตลอด 24 ชั่วโมง ให้คนไทยที่ตกค้างอยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ทยอยกลับเข้ามาตามช่องทางที่ถูกกฎหมายเพื่อรับการตรวจหาเชื้อตามมาตรฐานสาธารณสุขด้วย
ขณะนี้มีรายงานว่าในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็กพบการติดเชื้อเพิ่มเติมอีก 15 ราย รวมผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 64 รายแล้ว
ด้าน นายแพทย์ ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เขียงราย กล่าวว่า คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ที่มีประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เป็นประธาน ได้มีประกาศให้ผู้ที่ตกค้างอยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็กได้กลับเข้ามาตามช่องทางปกติ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะอำนวยความสะดวกในการเข้าเมือง ตรวจหาเชื้อ ดูแลสุขภาพให้อย่างดี ซึ่งพบว่าได้ผล เพราะในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ได้มีผู้แสดงตนขอกลับเข้ามาผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 แล้วจำนวน 31 ราย
อย่างไรก็ตาม จากการประสานงานผ่านคณะกรรมการชายแดนระดับท้องถิ่น หรือทีบีซีฝ่ายไทย ก็ได้รับแจ้งจากผู้จัดการโรงแรม 1G1 ท่าขี้เหล็ก สถานที่กลุ่มหญิงสาวไปทำงาน-ไปเที่ยว แล้วลักลอบข้ามมายังฝั่งไทยก่อนพบว่าติดเชื้อโควิดทั้งที่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา พิจิตร กรุงเทพฯ และราชบุรี ว่ามีคนไทยทำงานอยู่ในโรงแรมจำนวน 180 คน
ล่าสุดมีผู้แจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับมาอีก 17 คน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) ก็เตรียมพร้อมรับกลุ่มคนดังกล่าวเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าเมืองต่อไป
“เราจะยังไม่พูดถึงเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมายใดๆ เพราะภารกิจหลักคือการให้กลับเข้ามาเพื่อรับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติเหมือนรายก่อนหน้านี้”
ส่วนพื้นที่ภายในจังหวัดนั้นก็ได้มีประกาศให้ผู้ที่เคยลักลอบเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านรอบ 1 เดือนที่ผ่านมานี้ ให้ไปพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อาสาสามัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ฯลฯ เพื่อรับการตรวจ ดังนั้น กรณีผู้ที่เกี่ยวข้องขอให้แสดงตัวเพื่อให้ได้รับการอำนวยความสะดวกและป้องกันการแพร่ระบาดไปสู่สังคมด้วย
ด้านนายณรงค์ ลือชา หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการนำรถโมบายล์พระราชทานออกตรวจโควิด-19 มาบริการตรวจโรคที่เชียงรายแล้ว 2 คัน โดยประจำอยู่ที่สะพานมิตรภาพไทย-พม่า ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 จำนวน 1 คัน และบ้านป่าเหมือด ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งโรงแรมที่หญิงสาวที่ลักลอบข้ามเข้ามามักไปพักก่อนจะเดินทางเข้าสู่ชั้นในของประเทศ อีก 1 คัน รองรับการตรวจได้วันละ 200-300 คน สามารถสนับสนุนกรณีกลุ่มเสี่ยงต่างๆ ทั้งคนขับรถไปส่งหญิงสาว พนักงานโรงแรม ชาวบ้านในชุมชน ฯลฯ และจะขยายงานไปเรื่อยๆ จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ