ศูนย์ข่าวขอนแก่น - งามจนอดใจแวะเซลฟีไม่ไหวที่แปลงดอกไม้นานาพรรณ คณะเกษตรศาสตร์ มข.กว้างกว่า 10 ไร่ หลากสีสันของไม้ดอกนับแสนต้น เปิดให้เข้าชมและถ่ายรูปเซลฟีท่ามกลางลมหนาวได้อย่างเป็นทางการ 5 ธันวาคมนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในห้วงนี้ ณ บริเวณแปลงกังหัน หมวดพืชไร่ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ได้มีประชาชนในจังหวัดขอนแก่นทยอยไปเยี่ยมชมไม้ดอกที่ปลูกเป็นสวนขนาดใหญ่ที่กำลังผลิบานสวยงามสุดลูกตา โดยแต่ละคนต่างใช้มือถือถ่ายรูปเซลฟีเป็นที่ระลึก
แปลงไม้ดอกดังกล่าวนักศึกษาคณะเกษตรศาสตร์ได้ร่วมกันเพาะปลูก โดยปลูกดอกคอสมอสสีม่วงสลับกับสีชมพู รวมถึงปลูกสลับกับดอกดาวกระจาย ดอกทานตะวันสีเหลืองสด ดอกเซี่ยนฝรั่ง ดอกปูซันเวียร์ และดอกกระดาษ
แปลงไม้ดอกขนาดใหญ่ผืนนี้กว้างกว่า 10 ไร่ รวมไม้ดอกที่ปลูกมากกว่า 100,000 ดอก นักศึกษาคณะเกษตรศาสตร์ได้ร่วมกันออกแบบ ลงมือขึ้นแปลง เพาะปลูกขึ้นมาเพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหน้าหนาว และเป็นอีกจุดหนึ่งที่จะให้บริการถ่ายรูปบัณฑิตที่จะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
นายภูมินทร์ ทองดี หัวหน้านักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาพืชไร่ คณะเกษตรศาสตร์ ม.ขอนแก่น บอกว่า ปีนี้เป็นปีที่ 8 แล้วที่นักศึกษาคณะเกษตรศาสตร์ได้จัดงานทุ่งดอกไม้นานาพรรณ โดยในปีนี้ได้มีการออกแบบใหม่ให้สวยงามมากกว่าปีที่ผ่านมา ออกแบบให้เป็นแฉกทางเดินเข้าไปยังจุดที่ตั้งกังหันลม ท่ามกลางดอกไม้สีสันสวยงาม
ที่พิเศษสุดคือ การทำสะพานไม้ไผ่เป็นทางเดินลงไปในสระน้ำที่ล้อมรอบไปด้วยดอกดาวกระจายสีเหลืองอร่าม ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางทะเลดอกไม้ สวนไม้ดอกแห่งนี้จะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป
ด้านนางสาวจันทิมา ผิวนา นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า ตนและเพื่อนๆ ได้มาที่แปลงกังหันทุกปี แต่ในปีนี้มีการนำดอกไม้มาตกแต่งสวยงามกว่าปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่ขับรถผ่านมาเส้นทางนี้ อดไม่ได้ที่จะจอดรถเดินชมความงามพร้อมกับถ่ายรูปโพสต์ขึ้นเฟซบุ๊ก
“หนูชอบสะพานไม้ไผ่ที่สร้างขึ้นมาเป็นทางเดินลงไปในสระน้ำ มองไปทางไหนก็มีแต่ดอกไม้ห้อมล้อม ยิ่งไปยืนอยู่ตรงปลายสะพานจะเห็นดอกดาวกระจายสีเหลืองอร่ามงามตาจริงๆ อยากให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ทราบข่าวหาเวลาแวะมาดูดอกไม้และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก”
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมได้ที่แปลงกังหัน ตรงข้ามหอพัก 8 โดยระหว่างวันที่ 1-4 ธ.ค.นี้จะเปิดรับนักท่องเที่ยววันละ 200 คนเท่านั้น ค่าเข้าชมคนละ 50 บาท และจะเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 ธ.ค. ค่าเข้าชมคนละ 20 บาท