เชียงใหม่ - กระแสทุ่งดอกไม้เหมืองแก้ว-แม่ริม เชียงใหม่..ยังแรง ปลายฝนต้นหนาวสารพัดไม้ดอกแข่งกันบานสะพรั่งอวดโฉมหลากสีสัน สาวๆ แห่เช็กอินถ่ายรูปตรึมต่อเนื่อง
ทุ่งดอกไม้ ต.เหมืองแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้ชื่อเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญ ซึ่งชาวบ้านทั้ง 9 หมู่บ้าน นอกจากจะเพาะปลูกไม้ดอกเพื่อการค้า ทั้งเบญจมาศ พีค็อก มาร์กาเรต ดาวเรือง สลับกับการปลูกข้าวแล้ว ยังสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ต่อเนื่อง
ก่อให้เกิดการสร้างงานและสร้างรายได้สู่ชุมชนอีกมากมาย โดยเฉพาะในกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชนในตำบลเหมืองแก้ว ที่นำผลผลิต สินค้าสด และแปรรูป เช่น น้ำสมุนไพร ขนมพื้นบ้าน อาหารพื้นเมือง เสื้อผ้า งานหัตถกรรม ฯลฯ มาจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้เกษตรกรและชุมชนปีละ 80-100 ล้านบาททีเดียว
ล่าสุด ห้วงปลายฝนต้นหนาวปี 63 นี้ ทุ่งดอกไม้ ต.เหมืองแก้ว อ.แม่ริม กำลังแข่งขันออกดอกเบ่งบานสะพรั่งหลากสีสัน ทำให้ผู้คนจากทั่วสารทิศแวะเวียนไปถ่ายภาพเป็นที่ระลึก แชร์อวดในโลกโซเชียลฯกันต่อเนื่อง แม้วิกฤตโควิดจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวโดยรวมของเชียงใหม่ก็ตาม
เช่น สวนดอกไม้ป้านกเอี้ยง ซึ่งมีพื้นที่ขนาดใหญ่มีดอกไม้จำนวนมากหลากหลายสี อีกทั้งยังมีอุปกรณ์ประกอบให้ได้ถ่ายรูปคู่ตามจุดต่างๆ ทั้งเครื่องเล่นเปียโน อ่างไม้ กระจก ตู้โทรศัพท์ แคร่สานรูปหัวใจ เรือนไม้ถ่ายภาพมุมสูง อีกทั้งยังมีโซนร้านอาหารไว้บริการอาหารเครื่องดื่มตลอดทั้งวัน และจุดนั่งพักหลบแดดหลายแห่ง
นางปราณี ศรีสวัสดิ์ หรือป้านกเอี้ยง เจ้าของสวนฯ เปิดเผยว่า สำหรับสวนดอกไม้ของเรามีขนาดใหญ่ที่สุดจำนวน 20 ไร่ มีทั้งดอกมาร์กาเรต คัตเตอร์ สร้อยทอง และช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ดอกซันเวียสีแดงขาวน้ำเงินจะสะพรั่งอวดโฉม เช่นเดียวกับดอกแอสเตอร์หรือดอกกระดาษ ก็จะบานพร้อมกันสวยงามทั้งสวนแน่นอน
“เราพยายามที่จะพัฒนาทุ่งดอกไม้เหมืองแก้ว-แม่ริม ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวตลอดทั้งปีของจังหวัดเชียงใหม่เลย จากเดิมจะมีคนมาเที่ยวแค่ช่วงไฮซีซันเท่านั้น”
นางรำจวญ คุณา เจ้าของสวนดอกไม้ป้าจวน ลุงใจ๋ เล่าว่า กว่า 20 ปีที่ผ่านมาตนมีอาชีพปลูกดอกมาร์กาเรต มีพื้นที่ปลูกทั้งหมด 9 ไร่ และจะปลูกหมุนเวียนไปเพื่อให้สามารถตัดดอกส่งขายได้ทุกวัน ซึ่งการปลูกดอกมาร์กาเรตนั้นจะใช้เวลาในการปลูก 4 เดือน และดอกจะบานสวยอยู่ในระยะเวลาประมาณ 1 เดือน เมื่อตัดดอกแล้วก็ต้องปลูกต้นไม้ทดแทน
แต่ละวันจะมีพ่อค้าคนกลางจากที่ต่างๆ รวมไปถึงปากคลองตลาด มารับซื้อถึงสวนประมาณวันละ 200 กิโลกรัม ขายได้ราคากิโลกรัมละ 20 บาท แต่พอกระแสสวนดอกไม้มาแรงจึงได้แบ่งพื้นที่สวน 1.5 ไร่ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชื่นชมความสวยงาม ซึ่งในช่วงวันธรรมดาจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมประมาณ 100-200 คน ส่วนในวันเสาร์อาทิตย์มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมมากถึง 300 คนเลยทีเดียว