ศูนย์ข่าวขอนแก่น - คณะเกษตรศาสตร์ ม.ขอนแก่น รับมอบโรงเรือนสำหรับปลูกพืชพร้อมระบบน้ำ จากทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย เผยเป็นเทคโนโลยีระบบน้ำจากประเทศอิสราเอล ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการจัดการเกษตรเพื่อใช้จัดการศึกษาสำหรับคณะเกษตรศาสตร์ และเป็นแปลงสาธิตสำหรับเกษตรกรในพื้นที่ภาคอีสาน
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา ณ อุทยานเทคโนโลยีการเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ได้มีการจัดพิธีเปิดโรงเรือนสำหรับปลูกพืชพร้อมระบบน้ำของคณะเกษตรศาสตร์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศอิสราเอล และมาชาฟ-ศูนย์ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของอิสราเอล โดยมี ฯพณฯ ดร.เมเอียร์ ชโลโม เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยขอนแก่นร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า งานนี้เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างสถานทูตอิสราเอล และมาชาฟ-สำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของอิสราเอล และคณะเกษตรศาสตร์ มข. ซึ่งเริ่มต้นจากการสนับสนุนและแก้ไขปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภคในครัวเรือนและเพื่อกิจกรรมทางการเกษตรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยเมื่อหลายปีก่อน นับตั้งแต่นั้นมาสถานทูตอิสราเอลและมหาวิทยาลัยขอนแก่นก็ได้สานสัมพันธ์ความร่วมมือกันในหลายๆ ด้าน เช่น ความร่วมมือด้านการวิจัยที่คณะเกษตรศาสตร์ การลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งรัฐอิสราเอลและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยในปี 2545 รวมทั้งมีการติดตั้งหน่วยสาธิตระบบจ่ายน้ำและปุ๋ย โดยใช้เทคโนโลยีของไทยและอิสราเอลขึ้นในมหาวิทยาลัยขอนแก่น
ยิ่งไปกว่านั้นเราได้มีโอกาสต้อนรับอดีตเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย โอกาสที่ท่านเดินทางมาเยี่ยมเยียนมหาวิทยาลัยขอนแก่นเพื่ออบรมหลักสูตรการบริหารจัดการน้ำซึ่งหัวข้อการฝึกอบรมหลักสูตรในครั้งนั้นคือ “Small Irrigation International (ชลประทานขนาดเล็กนานาชาติ)ฯมหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อปี พ.ศ. 2558 ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำสำหรับภาคการเกษตรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยเป็นอย่างมาก
ด้าน รศ.ดร.ดรุณี โชติษฐยางกูร คณะบดีคณะเกษตรศาสตร์ มข.กล่าวถึงที่มาของโครงการฯ ว่า เมื่อเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2563 สถานทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ประสงค์ที่จะขยายความร่วมมือระหว่างสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลฯ และมาชาฟ-ศูนย์ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของอิสราเอลและมหาวิทยาลัยขอนแก่นให้มากขึ้น จึงได้เสนอการสนับสนุนสร้างโรงเรือนแบบผสมผสาน (Hybrid Greenhouse) ขนาด 8×15 เมตร โดยใช้เทคโนโลยีของอิสราเอล สำหรับอุทยานเทคโนโลยีการเกษตรขึ้น
โดยลักษณะครึ่งหนึ่งของโรงเรือนเป็นระบบอุปกรณ์แบบธรรมดา และอีกครึ่งหนึ่งเป็นระบบไฮโดรโปนิกส์ เพื่อใช้ในการจัดการศึกษาสำหรับคณะเกษตรศาสตร์ และเป็นแปลงสาธิตสำหรับเกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่คณะเกษตรศาสตร์และคนในพื้นที่เป็นอย่างมาก
ขณะที่ ดร.เมเอียร์ ชโลโม เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ได้กล่าวถึงความหลังว่า เมื่อปี 2507 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ พระองค์ทรงเห็นว่าประเทศอิสราเอลเป็นประเทศที่เห็นด้วยกับแนวคิดของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างแท้จริง จึงได้เชิญผู้เชี่ยวชาญชาวอิสราเอลเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการตามพระราชประสงค์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลังจากนั้นผู้เชี่ยวชาญชาวอิสราเอลก็ได้ทำงานในโครงการนี้ทั่วประเทศไทย
หนึ่งในนั้นก็มีมหาวิทยาลัยขอนแก่นรวมอยู่ด้วย ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ได้ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่เกษตรกรไทยโดยได้นำความรู้ ความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีอิสราเอลเข้ามาใช้ ตั้งแต่นั้นมาอิสราเอลก็ได้มีความร่วมมือทางการเกษตรกับประเทศไทยมาโดยตลอด ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่านักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นจะได้รับความรู้และประโยชน์จากโรงเรือนแห่งนี้
“นอกจากนี้ ทางอิสราเอลยังมีการมอบทุนให้นักศึกษาปีละ 100 ทุน เพื่อสนับสนุนนักศึกษาไปแลกเปลี่ยนด้านการเกษตรที่ประเทศอิสราเอลเป็นระยะเวลา 1 ปี หากมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นสนใจก็สามารถเข้าร่วมได้” ฯพณฯ ดร.เมเอียร์ ชโลโม กล่าว