ศูนย์ข่าวขอนแก่น - พ่อแม่พลทหาร “รชฏ” ติดใจสาเหตุลูกชายเสียชีวิตภายในค่ายทหาร ไม่เชื่อฆ่าตัวตาย ล่าสุดต้องรอผลผ่าพิสูจน์จากนิติเวชโรงพยาบาลศรีนครินทร์ อีก 45 วัน ด้าน ผบ.มทบ.23 ลั่นไม่มีสิทธิพูดเรื่องทหารตาย ย้ำรอฟังกองทัพบกแถลง
จากกรณีที่นายสุรชัย เสนาสนิท อายุ 43 ปี และ น.ส.อุลัย เตื่อยมา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 บ้านโนนสวรรค์ หมู่ 1 ต.หนองน้ำใส อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น พ่อและแม่ของพลทหาร รชฏ เสนาสนิท อายุ 21 ปี ประจำค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สภ.ย่อยศิลา อ.เมืองฯ จ.ขอนแก่น กรณีสงสัยสาเหตุการตายของลูกชายที่มีการแจ้งว่าป่วยซึมเศร้าแล้วผูกคอตายในกระท่อมศาลาภายในค่ายดังกล่าว
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (13 พ.ย.) พล.ต.คณธัช ชนะกาญจน์ ผบ.มทบ.23 ให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ว่า ในกรณีพลทหารตายในค่ายนั้น ทาง มทบ.23 ไม่สามารถจะพูดได้ ทุกอย่างต้องให้เป็นผู้บังคับบัญชาและกองทัพบกเป็นคนพูด ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้ตายด้วย
ขณะที่ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสารกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวถึงการสืบสวนสอบสวนผู้เกี่ยวข้องกรณีมีพลทหารตายในค่ายทหารว่า เรื่องดังกล่าวได้กำชับพนักงานสอบสวน สภ.ย่อยศิลา ให้สอบสวนในทุกๆ ด้านที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้าเวรยาม ในช่วงเวลาก่อนพบศพและขณะพบศพ รวมถึงสอบสวนด้วยว่าการเคลื่อนย้ายศพจากจุดเกิดเหตุไปยังนิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์นั้น พ่อแม่ ญาติพี่น้องคนตายทราบหรือเห็นด้วยหรือไม่ รวมถึงการสอบสวนทุกๆ คนที่เกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวทั้งหมดให้โปร่งใสชัดเจนเพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
ด้านนายสุรชัย เสนาสนิท อายุ 43 ปี พ่อของพลทหาร รชฏ เสนาสนิท กล่าวว่า การตายของลูกชายนั้นเป็นการตายในหน้าที่ เพราะลูกชายอยู่ระหว่างทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้คุมเรือนจำในค่ายทหารดังกล่าว เนื่องจากหลังจากที่ส่งลูกชายกลับเข้าค่ายวันที่ 25 ต.ค. จากนั้นวันที่ 27 ต.ค.ก็ถูกรับขึ้นหน่วยไปเป็นผู้ช่วยผู้คุม และปฏิบัติหน้าที่ที่รับผิดชอบจนวันตายซึ่งเป็นเรื่องที่พ่อแม่ภูมิใจที่ลูกชายประพฤติดีมาตลอด ไม่เคยทำผิดระเบียบวินัย แต่เมื่อได้รับแจ้งจากค่ายว่าลูกชายตายจึงรีบแจ้งพี่น้องมาดูและรับศพลูกชาย รวมถึงนิมนต์พระสงฆ์มาเชิญวิญญาณลูกชายกลับบ้านด้วย แต่ช่วงที่กำลังเดินทางมายังค่ายทหารนั้นได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่ต้องมาที่ค่ายทหารให้ไปรับศพลูกชายที่นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ แต่ครอบครัวยังไม่ไปเพราะต้องการเดินทางมายังค่ายทหารดังกล่าว เพื่อขอดูสถานที่ที่เกิดเหตุ
พบว่าจุดที่ลูกชายตายนั้นอยู่ที่ศาลาใกล้กับเรือนจำ จึงให้พระสงฆ์เชิญวิญญาณลูกชายกลับบ้านและทางค่ายก็นำภาพถ่ายที่พบศพมาให้ดู ขณะนั้นทำอะไรไม่ถูก กระทั่งไปที่นิติเวช ทราบจากเจ้าหน้าที่ที่เข้าเวรในขณะนั้นว่า ร่างกายลูกชายมีคราบเลือด แต่เมื่อล้างจุดที่พบคราบเลือดปรากฏว่าไม่มีบาดแผล รวมถึงรอยเจาะที่แขน 2 จุด เชื่อว่าน่าจะมีการใช้มีดปลายแหลมเจาะที่แขนของลูกชายและรัดคอจนเสียชีวิต แล้วจับแขวนคอก็เป็นได้ จึงอยากให้มีการสอบสวนให้ชัดเจนด้วย