xs
xsm
sm
md
lg

แม่พลทหารผูกคอตายในห้องกักขังค่ายประเสริฐสงคราม ร้องกองปราบฯ ช่วยสางคดี เผยโดนขู่ให้หยุดร้องเรียน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - แม่พลทหารผูกคอตายปริศนาในห้องกักขังค่ายประเสริฐสงคราม ร้อยเอ็ด ร้องขอกองปราบปรามรับโอนคดี หลังพบตำรวจท้องที่ถูกกดดัน อีกทั้งครอบยังถูกโทรศัพท์ข่มขู่ให้หยุดร้องเรียน 

วันนี้ (9 พ.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 09.30 น. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม และทนายความ พานางหนูไกร บุญวิเศษ อายุ 44 ปี แม่ของพลทหาร พิชวัฒน์ เวียงนนท์ ที่ผูกคอตัวเองเสียชีวิตภายในคุกทหาร กองรักษาการณ์ ค่ายประเสริฐสงคราม จ.ร้อยเอ็ด เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมให้ช่วยรับโอนคดีมาอยู่ในความรับผิดชอบ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังมีเจ้าหน้าที่ทหารนายหนึ่งโทรศัพท์มาข่มขู่ทางครอบครัวให้หยุดสืบหาความจริงเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตที่ทางครอบครัวไม่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย 

นายรณณรงค์กล่าวว่า ครอบครัวผู้เสียชีวิตยังเกิดความสงสัยเกี่ยวกับสาเหตุการตาย เพราะผู้ตายได้ออกจากค่ายไปแล้วถูกตามกลับไป ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะเสียชีวิตจากการแขวนคอ ไม่รู้ว่าเป็นการฆ่าตัวตายจริง หรือเป็นการอำพรางศพหรือไม่ หากผู้ตายมีอาการซึมเศร้าตามที่มีกระแสข่าวนั้นจะต้องมีสัญญาณหรืออาการผิดปกติบ้าง แต่ที่ผ่านมาก็ไม่มี อีกทั้งก่อนหน้าเสียชีวิตยังบอกให้แฟนสาวนำโทรศัพท์มาให้ จึงไม่น่าจะเป็นการฆ่าตัวตายเพราะอาการซึมเศร้าแต่อย่างใด 

นายรณณรงค์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีแรงกดดันจากทหารทำให้ตำรวจท้องที่ไม่สามารถทำคดีได้ และญาติยังถูกห้ามไม่ให้เข้าไปดูที่เกิดเหตุ จึงร้องขอให้โอนคดีมายังกองปราบปราม พร้อมกันนี้หากคุกทหารมีกล้องวงจรปิดก็ขอให้ใช้กฎหมายไปนำหลักฐานมา และอยากให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เข้ามาชันสูตรพลิกศพรวมถึงตรวจสอบร่องรอยต่างๆ บนเชือกที่ใช้ผูกคอด้วยตามขั้นตอนทางนิติวิทยาศาสตร์ใหม่ เนื่องจากผลการตรวจเบื้องต้นมีรอยช้ำที่หูจากการผูกรัด และศพเกิดการเน่าเนื่องจากไม่แช่โลงเย็นทำให้เสื่อมสภาพ แต่ยังต้องตรวจสอบชิ้นเนื้อตามซอกเล็บและอื่นๆ เพิ่มเติม นอกจากนี้ ทางครอบครัวยังถูกเจ้าหน้าที่ทหารนายหนึ่งโทรศัพท์เข้ามากดดันว่าให้หยุดไม่เช่นนั้นจะไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ เลย 

ด้านนางหนูไกรกล่าวว่า อยากรู้ความจริงว่าใครทำอะไรลูก ให้พูดมาจะได้จบๆ ไป เพราะตนมีที่พึ่งคือลูกเท่านั้น เมื่อสัปดาห์ก่อนมีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์มาบอกให้ลูกชายกลับมารายงานตัวที่ค่าย ก่อนจะกลับลูกชายบอกกับตนว่าไม่อยากกลับไปอีกไม่อย่างนั้นคงตายแน่ๆ เพราะที่ผ่านมาต้องถูกเหยียบคอ โรยพริกเกลือ ตัดผมและตีหลังจนช้ำ กระทั่งมาเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หลังเสียชีวิตพบว่ามีตำรวจและพยาบาลเซ็นส่งศพไป รพ.ร้อยเอ็ด ทั้งที่ยังไม่แกะเชือกออกจากศพ และครอบครัวก็ถูกห้ามไม่ให้เข้าไปดูศพ ซึ่งเห็นว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมายอมรับว่าลูกชายป่วยเป็นวัณโรคที่ปอดจึงเหนื่อยง่าย ทำให้ต้องเข้าออกค่ายเพื่อรักษาอาการป่วยอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ทำเรื่องขอออกมาอย่างถูกต้องทุกครั้ง และล่าสุดก่อนเสียชีวิตก็มีใบแพทย์สั่งให้ออกมาพักฟื้น 6 เดือน แต่ก็ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดจึงมักถูกลงโทษ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่นายรณณรงค์กับนางหนูไกรให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนเสร็จสิ้นแล้วนั้น นายรณณรงค์ก็ได้นำพริกป่นมาโรยใส่รูปถ่ายของผู้ตาย เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์อีกด้วย

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ก่อนรวบรวมข้อมูลส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป




สำหรับกรณีนี้ พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ชี้แจงเมื่อวันที่ 7 พ.ย.ว่า กองทัพบกขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของพลทหารด้วยที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก จากการตรวจสอบเบื้องต้นหน่วยต้นสังกัดรายงานว่ามีเหตุการณ์ต่อเนื่องคือเมื่อ 24 ต.ค. 63 พลทหาร พิชวัฒน์ได้ลากลับบ้าน แต่เมื่อครบกำหนดเจ้าตัวไม่กลับเข้าค่ายทหาร จึงได้มีการตามตัวกลับมาจากภูมิลำเนา และได้รับลงทัณฑ์ตามระเบียบคือกักตัวไว้ที่กองรักษาการณ์ และให้ทำงานสาธารณประโยชน์ทางด้านการเกษตร และในระหว่างทำงานการเกษตรในค่ายทหาร เจ้าตัวได้หนีออกไปอีก ต่อมาทางครอบครัวก็ได้นำตัวพลทหาร พิชวัฒน์กลับมาส่งที่ค่ายทหาร เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 63 โดยได้ถูกคุมตัวไว้ที่กองรักษาการณ์เช่นเดิม และในวันที่ 6 พ.ย. 63 ช่วงเที่ยง ได้ถูกพบว่าเสียชีวิต

รองโฆษกกองทัพบกกล่าวอีกว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวต้นสังกัดได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชันสูตรและดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย ขณะนี้หน่วยต้นสังกัดได้ช่วยดำเนินการจัดพิธีศพและอำนวยความสะดวกครอบครัวในการประสานติดต่อส่วนราชการและการดำเนินการทางกฎหมาย รวมทั้งได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และจะร่วมกับทางญาติรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบถึงสาเหตุจูงใจของการเสียชีวิตให้ได้ทราบความจริงและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น