ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ไม่หวั่นถูกพรรคภูมิใจไทยเททิ้ง! “หมอแหยง” หลั่งน้ำตาประกาศลงสู้ศึกเลือกตั้งชิงเก้าอี้นายก อบจ.โคราชในนามกลุ่มอิสระ เผยลาออกจากผู้ช่วย รมต.สธ.แล้ว และ 40 วันจะลงพบประชาชนรากหญ้าทุกแห่งหนทั้ง 32 อำเภอ มั่นใจเอาชนะได้ ขณะ ภท.ชัดเจน ส่งเมีย รมช.พาณิชย์ เสี่ยโรงแป้งมันลงชิงเก้าอี้นายก อบจ.นครราชสีมา
วันนี้ (1 พ.ย.) ที่โรงแรมเฮอร์มิเทจ โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท อ.เมือง จ.นครราชสีมา นพ.สำเริง แหยงกระโทก อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พรรคภูมิใจไทย อดีตนายก อบจ.นครราชสีมา และว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงการประกาศตัวลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.นครราชสีมาในนามกลุ่มอิสระ พร้อมด้วยทีมงานในนามกลุ่ม “รักษ์โคราช” เช่น นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ อดีต ส.ส.นครราชสีมา 5 สมัย อดีตประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, นายทอง วิริยะจารุ อดีตประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา ที่ปรึกษาสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา พร้อมประกาศชูนโยบาย รวมพลังกับหมอแหยง, ปฏิรูปการเมือง นำโคราชสู่วิถีใหม่ สร้างสภาประชาชน, การเมืองสีขาว โคราชสีเขียว, ปฏิรูปงบประมาณผ่านทุกอำเภอ ชาวโคราชร่วมกำหนด, ทำทันทีทุกอำเภอ อำเภอขนาด S 30 ล้านบาท M 40 ล้านบาท L 50 ล้านบาท และ XL 100 ล้านบาท เลือกหมอแหยงเป็นนายก อบจ.นครราชสีมา
นายแพทย์ สำเริง แหยงกระโทก กล่าวว่า มีการกล่าวโจมตีว่า อบจ.นครราชสีมาเป็นสภาผู้รับเหมา สภาหาเงินหาผลประโยชน์ ถอนทุนนั้น ตนคิดว่าที่เขาพูดกันอย่างกว้างขวางจะถูกต้องหรือไม่นั้น ตนถึงอยากกลับมาเป็นนายก อบจ.อีกครั้งหนึ่ง หรือหมอแหยงรีเทิร์น หลังจากตนรอมา 8 ปีด้วยความมุ่งมั่นและหัวใจไม่มีอะไรที่ปิดกั้นตนได้ โดยเฉพาะสิ่งที่ถามกันมากว่าสภาผู้รับเหมา อันนี้ตนบอกตามตรงว่ามันเจ็บและเป็นหนามหยอกอกทิ่มแทง ซึ่งตนเข้าไปครั้งแรกยังแก้ไขไม่ได้ ตนก็พยายามแก้เรื่องนี้แต่ถูกคว่ำกลางสภา
แต่ตอนนี้ตนไม่ใช่ผู้อ่อนหัดทางการเมืองแล้ว หลังจากได้พบได้รู้ได้เห็นเราจะสามารถบริหาร อบจ.ได้ และบริหาร ส.อบจ.ได้ ตนเป็นมิตรกับ ส.อบจ.ทุกคน และเป็นมิตรกับ ส.ส.ทุกพรรคการเมืองระดับประเทศ ครั้งนี้ตนจะสมัครในนามอิสระ การเข้าไปครั้งนี้แม้เข้าไปคนเดียวก็ตามตนมั่นใจว่าจะบริหารได้ โดยจะให้มีสภาประชาชนที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนและเป็นประชาธิปไตยของประชาชนโดยประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งสภาประชาชนจะเกิดขึ้นทุกอำเภอ มีประชาชน และ อบต. เทศบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน 100 คนต่อสภาประชาชนเพื่อฟังเสียงว่าเขาต้องการอะไร เช่น สังคม การศึกษา ไม่ใช่ว่าเขาต้องการการศึกษาแต่ไปทำถนน คู คลอง เรื่องนี้ตนจะทำให้เป็นจริง เพราะเสียงประชาชนคือเสียงสวรรค์ และนำงบประมาณที่มีอยู่ 4,000 ล้านบาทแบ่งหรือเกลี่ยไปอำเภอต่างๆ ตามขนาดของแต่ละอำเภอ ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ และใหญ่มาก เราจะบริหารให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกมิติ ให้เขาได้รับรู้ว่างบประมาณไปอยู่ตรงไหน อย่างไร
นายสำเริงกล่าวต่อว่า ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าติดกับดักประชาธิปไตย 4 นาทีไปหย่อนบัตรแล้วได้เงินมาแค่นั้น แต่ประชาธิปไตยของตนจะอยู่ตลอด 4 ปี ประชาชนทุกคนจะมีส่วนร่วมและเป็นเจ้าของเงินงบประมาณ อบจ.ซึ่งเป็นภาษีของประชาชนตลอดเวลา จากนี้คือการเปลี่ยนแปลงปฏิรูป อบจ.
ส่วนคู่แข่งคนสำคัญที่จะชิงนายก อบจ.รู้สึกหวั่นไหวหรือไม่นั้น ตนเชื่อมั่นพลังประชาชน แต่ถ้าหวั่นไหวก็คือปัจจัยเงินกับปัจจัยอำนาจรัฐ แต่ถ้าเรามีความตั้งใจจริง บริสุทธิ์จริง ทั้ง 2 ปัจจัยที่ว่านี้เราก็จะสามารถเอาชนะได้
ส่วนที่กระแสข่าวว่าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ปล่อยทิ้งนั้น นายสำเริงถึงกับสะอึก ปากสั่น และหยุดชะงักไปพักหนึ่งพร้อมกับมีน้ำตาคลอเบ้า ก่อนกล่าวว่า ครับ แต่อันนี้ไม่อยากไปทำลายพรรค หรือไปทำลายคนอื่น เราสู้กันด้วยความเข้าใจของพี่น้องประชาชน ซึ่งเอานโยบายเป็นหลัก เอาเป็นว่าตนไม่ทำให้พรรคเสียหายดีกว่า ตอนนี้ตนยังเป็นสมาชิกพรรคฯ เพราะอยู่ในขั้นตอนของกระบวนการอยู่ แต่ได้ลาออกจากผู้ช่วยรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว ด้วยความมุ่งมั่นตั้งแต่ต้น และจะเดินหน้าต่อในการทำงานตามอุดมการณ์และเป้าหมายที่มุ่งมั่นตลอด 8 ปีที่ผ่านมา และฝากไปยังพี่น้องประชาชนในช่วง 40 วันตนจะต้องเข้าไปหาพี่น้องประชาชนรากหญ้า เป็นทางเดียวที่เราจะชนะเขาได้ ก็คือ ให้เขาเข้าใจคำว่า สภาประชาชน และให้เขาเข้าใจคำว่า เงินที่รับมาแค่ 4 นาทีก่อนหย่อนบัตร กับเงินที่ท่านจะได้ตลอด 4 ปีที่ตนเป็นนายก อบจ.มันต่างกันแค่ไหน
ทั้งนี้ สำหรับ นพ.สำเริง แหยงกระโทก ได้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองและประกาศท่าทีว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.นครราชสีมามาโดยตลอดหลังได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.นครราชสีมาสมัยแรกและแพ้การเลือกตั้งในสมัยต่อมา จากนั้นได้เข้าร่วมสังกัดพรรคภูมิใจไทยและคาดหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.นครราชสีมาครั้งนี้ในนามพรรคภูมิใจไทยอย่างเต็มตัว แต่กลับถูกเททิ้งในโค้งสุดท้าย เพราะล่าสุดเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าพรรคภูมิใจไทย โดยแรงหนุนจาก นายเนวิน ชิดชอบ แห่ง จ.บุรีรัมย์ และ “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคฯ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะส่ง “ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล” หรือ “ดร.หน่อย” ประธานที่ปรึกษาชมรมทูบีนัมเบอร์วันเอี่ยมเฮง อ.เสิงสาง ภรรยาของ นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล เสี่ยโรงแป้งมันฯ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 7 พรรคภูมิใจไทย และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงสู้ศึกชิงเก้าอี้นายกอบจ.นครราชสีมาในครั้งนี้แทน “หมอแหยง”