ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ว่าฯ โคราชเรียกถกรับมือน้ำมูลท่วมวิกฤตและเตรียมพร้อมช่วยเหลือ ปชช.หลังน้ำมูลเอ่อท่วมและเพิ่มระดับต่อเนื่อง ขณะเขื่อนลำตะคองแจ้งระบายเพิ่มอีกเท่าตัวรับพายุไต้ฝุ่น “โมลาเบ” ด้าน “เขื่อนมูลบน” ทะลุ 93% วัดดวงยังไม่พร่องน้ำลงลำมูลซ้ำเติมท่วมอ่วม 7 อำเภอ เดือดร้อน 2,399 ครัวเรือน ส่วนเขื่อนลำพระเพลิงแจ้งเตือนพร้องน้ำด่วนอีก
วันนี้ (27 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อำเภอพิมาย การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เป็นประธานประชุมด่วนติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำมูลและเตรียมการรับสถานการณ์น้ำท่วมภายในเขต อ.พิมาย อ.ชุมพวง และ อ.ลำทะเมนชัย ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำมูลตอนล่างก่อนไหลลงสู่ จ.บุรีรัมย์
โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ทั้ง นายสมบัติ ไตรศักดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5 นครราชสีมา, นางแสงเสน่ห์ เกษกระทุ่ม รก.หัวหน้าสำนักงาน ปภ.จังหวัดนครราชสีมา, นายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครราชสีมา และ ปภ.สาขาชุมพวง เป็นต้น
ทั้งนี้ เพื่อหารือการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำมูลกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ เนื่องจาก จ.นครราชสีมาได้ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่พบว่าปริมาณน้ำในลุ่มน้ำมูลมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น โดยสถานีวัดน้ำบริเวณเขื่อนพิมาย อ.พิมาย มีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีระดับน้ำต่ำกว่าระดับวิกฤตเพียง 15 เซนติเมตร (ซม.)
ทางด้านโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง ได้แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ระบุว่า โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคองได้เพิ่มการระบายน้ำลงลำน้ำธรรมชาติ (ลำตะคอง) จาก 10 ล้าน ลบ.ม./วินาที เป็น 20 ล้าน ลบ.ม./วินาที วันที่ 27 ต.ค. 2563 เวลา 12.00 น. หากมีฝนตกหนักในช่วงพายุโมลาเบจะลดการระบายตามสถานการณ์ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบทั่วกัน ลงวันที่ 27 ต.ค. 2563
ทั้งนี้ ล่าสุดเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำ 348.201 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 110.72% ส่วนเขื่อนขนาดใหญ่อีกแห่ง เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำ 154.167 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 99.46% ของขนาดความจุ 155 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งได้แจ้งเตือนการระบายน้ำออกจากเขื่อนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ฝนตกหนักจากผลกระทบพายุไต้ฝุ่นโมลาเบในวันที่ 29-30 ต.ค.นี้ โดยเขื่อนลำพระเพลิงได้มีการระบายน้ำลงคลองส่งน้ำสายใหญ่ในอัตรา 10 ล้าน ลบ.ม.ต่อวินาที และระบายน้ำลงคลองธรรมชาติลำพระเพลิงในอัตรา 30 ล้าน ลบ.ม.ต่อวินาที จึงแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำในเขต 11 ตำบล อ.ปักธงชัย และ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและเก็บของขึ้นที่สูง
ขณะที่สถานการณ์น้ำจากลุ่มน้ำลำพระเพลิงที่เอ่อท่วมหลายพื้นที่ใน จ.นครราชสีมา ล่าสุดวันนี้ปริมาณน้ำส่วนหนึ่งยังคงอยู่ในที่ อ.โชคชัย ช่วงตำบลท่าอ่าง และตำบลด่านเกวียน เนื่องจากเป็นจุดที่รองรับมวลน้ำที่กระจายมาจากพื้นที่ด้านบน ก่อนไหลมารวมกันและไหลลงสู่ลำน้ำมูล ทำให้ยังคงมีน้ำท่วมขังบ้านเรือนประชาชนกว่า 100 ครัวเรือน ส่วนปริมาณน้ำในลำน้ำมูลซึ่งอยู่ถัดไปยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและยังไหลลงไปสมทบกับปริมาณน้ำในลำน้ำมูลที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ และล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดน้ำได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมหมู่บ้านที่อยู่ติดกับลำน้ำมูลในเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ แล้ว 16 หมู่บ้าน ในพื้นที่ตำบลท่าช้าง ประชาชนได้รับความเดือดร้อนแล้วกว่า 1,000 หลังคาเรือน
ส่วนเขื่อนมูลบน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเขื่อนขนาดใหญ่ของ จ.นครราชสีมา ที่มีปริมาณน้ำใกล้เต็มความจุ ต่อจากเขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย และเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว นั้น นายศักดิ์ดา อยู่เดช ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำมูลบน เปิดเผยว่า ล่าสุดวันนี้เขื่อนมูลบนมีปริมาณน้ำ 130 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 92.52% ของขนาดความจุ 141 ล้าน ลบ.ม. ระดับน้ำอยู่ต่ำกว่าทางระบายน้ำฉุกเฉิน หรือสปิลเวย์ประมาณ 70 เซนติเมตร (ซม.) สามารถรับน้ำได้อีกกว่า 10 ล้าน ลบ.ม. จึงยังไม่มีความจำเป็นจะต้องพร่องน้ำออกจากเขื่อน ประกอบกับสถานการณ์น้ำภายในลำน้ำมูลยังคงวิกฤตล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรของประชาชนในหลายพื้นที่อยู่ในขณะนี้
“ถึงแม้ว่าจะมีการคาดการณ์ว่าพายุไต้ฝุ่นโมลาเบจะส่งอิทธิพลทำให้มีฝนตกในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ในช่วงวันที่ 28-30 ต.ค.นี้ แต่ในช่วงนั้นปริมาณน้ำในลำน้ำมูลน่าจะเริ่มลดระดับลงบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามยังคงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อการบริหารจัดการน้ำได้อย่างทันท่วงที” นายศักดิ์ดากล่าว
วันเดียวกันนี้ ( 27 ต.ค.) นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัด นายจีรศักดิ์ แสงหอย นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บ้านตะกุดขอน ม.8 ต.ท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่และมอบถุงยังชีพแก่ประชาชน จำนวน 132 หลังคาเรือนที่ประสบภัยจากลำน้ำมูลไหลเข้าท่วมบ้านเรือนสูงกว่า1.50 เมตร เป็นเวลากว่า 3 วันแล้ว จนไม่สามารถพักอาศัยได้ บางส่วนต้องอพยพออกนอกพื้นที่กางเต็นท์นอนบริเวณพื้นที่ที่ไม่ถูกน้ำท่วม โดยทางอำเภอเฉลิมพระเกียรติได้นำรถสุขา อาหาร น้ำดื่ม และติดตั้งไฟส่องสว่างให้แก่ชาวบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำนักงาน ปภ.จังหวัดนครราชสีมาสรุปสถานการณ์น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ล่าสุดยังมีน้ำท่วมรวม 7 อำเภอ ได้แก่ อ.ปากช่อง อ.โชคชัย อ.โนนสูง
อ.เมืองนครราชสีมา อ.พิมาย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.จักราช รวม 19 ตำบล 1 เทศบาลตำบล
73 หมู่บ้าน เดือดร้อน 2,399 ครัวเรือน น้ำท่วมถนน 14 สาย โรงเรียน 7 แห่ง วัด 7 แห่ง สำนักสงฆ์ 2 แห่ง สะพาน 4 แห่ง และฝาย 1 แห่ง สำหรับพื้นที่การเกษตร อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย