เชียงใหม่ - ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรง หลัง จนท.ใช้กำลังสลายการชุมนุมของนักศึกษา เยาวชน และประชาชนที่กรุงเทพฯ เรียกร้องยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ยุติการจับกุม พร้อมเปิดเจรจาหาทางออกร่วมกัน
จากการใช้กำลังเจ้าหน้าที่เข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษา เยาวชน และประชาชนบริเวณแยกปทุมวัน และใกล้เคียง ที่กรุงเทพฯ เมื่อคืนวานนี้ (16 ต.ค.) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้ (17 ต.ค.) ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ P-move ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง ขอประณามการใช้ความรุนแรงและข้อเสนอต่อการแก้ไขปัญหาประเทศในสถานการณ์ปัจจุบัน ระบุว่า ดังปรากฏสถานการณ์ความรุนแรงอันเกิดจากการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่เข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มเด็กเยาวชนบริเวณแยกปทุมวัน และพื้นที่ใกล้เคียง แม้การชุมนุมจะเป็นไปอย่างสงบและสันติ พร้อมแจ้งยุติการชุมนุมต่อเจ้าหน้าที่ภายในเวลา 22.00 น.อย่างชัดเจน แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ฟังเหตุผลกลุ่มผู้ชุมนุม อ้างประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร เข้ากดดัน เข้ายึดพื้นที่ พร้อมใช้น้ำผสมสารเคมีฉีดเข้าสลายผู้ชุมนุม ไล่จับกุมบุคคล โดยอ้างว่าเป็นผู้กระทำผิดประกาศดังกล่าวนั้น ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ขอแถลงท่าทีและข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้
1. เราขอประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้กองกำลังเข้าสลายการชุมนุมของเด็กนักเรียน ลูกหลาน เยาวชนอันเป็นอนาคตของชาติ ในช่วงที่ผ่านมา หากรัฐบาลยังใช้อำนาจอยู่เช่นนี้ ยิ่งจะทำให้สังคมแตกร้าวยากต่อการเยียวยาแก้ไข และขอให้ยุติการใช้ความรุนแรงกรณีดังกล่าวทันที
2. เราเห็นว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกับการรักษาไว้ซึ่งอำนาจรัฐของรัฐบาล โดยไม่ฟังเสียงของประชาชนที่ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วยุบสภา เลือกตั้งใหม่ เพื่อให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยได้ตัดสินอนาคตของประเทศตามหลักการในระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งพฤติกรรมที่ไม่ชอบธรรมหลายด้านของรัฐบาลปัจจุบัน มิได้เกิดจากการกระทำของประชาชนแต่อย่างใด
3. เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ดังกล่าว เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครโดยทันที ยุติการจับกุมผู้ชุมนุม และปล่อยแกนนำคณะราษฎร 2563 พร้อมเปิดการเจรจาทางการเมืองเพื่อหาทางออกจากวิกฤตการณ์ดังกล่าวอย่างเป็นลำดับขั้นตอนโดยเร็ว
4. เราเห็นว่าภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจเป็นของประชาชน และ “ประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ” กลไกรัฐสภาควรทำหน้าที่ในการแก้ไขความเห็นต่างทางสังคมหรือความขัดแย้งทางการเมือง รัฐบาลซึ่งเป็นผู้บริหารเมื่อไม่สามารถแก้ปัญหาวิกฤตของบ้านเมืองได้ ก็ต้องยุบสภาเพื่อให้ประชาชนตัดสินอนาคตของประเทศผ่านการเลือกตั้ง ให้ประชาชนหรือพรรคการเมืองได้นำเสนอนโยบายในการแก้ไขความขัดแย้งทางสังคมในทุกด้าน อันจะเป็นเสมือนการทำประชามติผ่านการเลือกตั้ง และจะทำให้ปัญหาความขัดแย้งผ่านการถกเถียงอย่างรอบด้านและสันติ ตามระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
ท้ายที่สุด เราจะได้ประสานงานกับภาคประชาชน องค์กรต่างๆ ทุกเครือข่าย เพื่อผลักดันรัฐบาลได้ดำเนินการตามข้อเรียกร้องดังกล่าวโดยเร็ว หากไม่มีความคืบหน้าใดๆ เราจะยกระดับการเคลื่อนไหวต่อไป
ด้วยจิตสมานฉันท์และเชื่อมั่นในพลังประชาชน
แถลงโดยขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) / แถลงเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2563