กาฬสินธุ์ - เจ้าหน้าพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ เก็บหลักฐานภายในห้องพักของรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ที่เด็กชายวัย 3 ขวบ ดับปริศนา ด้านแม่เด็กยันน้องเคยตกเตียงมาก่อนทำให้มีรอยฟกช้ำและเสียชีวิต ตนและญาติไม่ติดใจ ด้านพ่อแท้ๆ ของน้องยังเดินทางไม่ถึงงานศพ
จากกรณีโรงพยาบาลกาฬสินธุ์.ส่งร่างของ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 3 ขวบ 5 เดือน ชาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รพ.ศรีนครินทร์ ผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังเสียชีวิตเมื่อช่วงเวลา 20.00 น.วันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา แพทย์พบบาดแผลขัดแย้งกับการสอบประวัติเด็กชายที่เสียชีวิต
โดยเฉพาะหน้าผากมีอาการบวมปูด ขอบตาบวมมีรอยเขียวช้ำ และกระดูกข้อต่อบริเวณศอกแขนข้างซ้ายหลุดออกจากกัน สงสัยว่าเด็กอาจถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่
ล่าสุด เที่ยงวันนี้ (13 ต.ค.) พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สั่งการให้ พ.ต.อ.สมชาย ภูกองชนะ ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าชุดสืบสวนและเจ้าหน้าพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานภายในห้องพักของรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์
ซึ่งเป็นห้องนอนและเป็นจุดที่ น.ส.สรัญญา โคตรวงค์ อายุ 33 ปี แม่แท้ๆ ของน้องเอ และนายคณากรณ์ มูลมั่ง อายุ 30 ปี พ่อเลี้ยง ระบุว่า เป็นจุดที่เด็กเคยตกเตียงนอนมาก่อนหน้านี้ และวันเกิดเหตุได้ล้มฟุบในห้องน้ำจนได้รับบาดเจ็บ นำตัวส่งรักษาก่อนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล พร้อมกับสอบปากคำทั้ง 2 คน
พ.ต.อ.สมชาย ภูกองชนะ ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำแม่และพ่อเลี้ยงของเด็กเบื้องต้น ทั้ง 2 คน ให้การว่าวันเกิดเหตุเด็กอุจจาระใส่ที่นอนแล้วเข้าไปในห้องน้ำ และลื่นล้มหัวฟาดกับขอบชักโครก แต่ตำรวจจะต้องรอผลชันสูตรอย่างละเอียดก่อนว่าเกิดจากสาเหตุใด
ขณะที่บรรยากาศที่บ้านเลขที่ 393 หมู่ 13 บ้านบัวขาว ต.บัวขาว ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพของเด็กชายวัย 3 ขวบ หลังจากญาตินำศพกลับมาจากการผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา มีญาติและเพื่อนบ้านมาร่วมงานท่ามกลางความโศกเศร้า แต่ผู้เป็นพ่อแท้ๆ ของน้องเอ ยังเดินทางกลับมาไม่ถึงเพราะเป็นครูอยู่ที่ จ.เชียงราย
ด้าน น.ส.สรัญญา โคตรวงค์ แม่แท้ของน้องเอกล่าวว่า ปกติลูกชายจะมียายเลี้ยง แต่วันเกิดเหตุลูกชายไม่สบาย เลยมาหาตนที่ห้อง ก่อนเกิดเหตุตอนเช้าเวลาประมาณ 00.60 น.วันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนออกไปซื้อกับข้าว และน้องอุจจาระใส่ที่นอน
จากนั้นพ่อได้ถอดเสื้อผ้าให้แล้วให้ลูกชายไปล้างก้นรอในห้องน้ำ แล้วค่อยตามไปอาบน้ำให้ จากนั้นสามีก็ได้เดินตาม จู่ๆ ได้ยินเสียงตุ๊บเลยรีบวิ่งไปดู ก็เห็นว่าล้มในห้องน้ำแล้ว
ส่วนผลการตรวจบาดแผลของแพทย์นั้น ปกติตนเลี้ยงลูกเอง คนอื่นไม่ได้มาเลี้ยงด้วย จึงอาจจะไม่รู้ ซึ่งที่บอกว่าการที่เด็กจะตกเตียงก่อนหน้านี้และลื่นล้มจะไม่มีแผลขนาดนี้ ขอยืนยันว่าก่อนหน้านี้น้องเป็นมาแล้วก่อนที่จะมีอาการหนักและเสียชีวิต ซึ่งตนไม่ติดใจเนื่องจากพ่อแม่ และยายก็รู้อยู่แล้วว่าเวลาน้องล้ม หรือเป็นไข้รอยช้ำจะขึ้นตามหน้าตามตัวมาทันที
แต่ที่ผ่านมาไม่ได้พาไปรักษาที่โรงพยาบาล เพียงแต่รักษาเบื้องต้นโดยการสอบถามเภสัชซื้อยาร้านขายยามากินก็หาย
