ฉะเชิงเทรา - จูบสุดท้าย! ดีเจทัวร์บุญกฐินรถไฟชนบัสดับ 19 ราย ที่ฉะเชิงเทรา เมียร่ำไห้ไม่คิดเป็นการสั่งลาครั้งสุดท้าย เผยสามีตั้งใจหาเงินทำบุญวันเกิดให้ยาย ทั้งที่มีอาชีพหลักบุรุษไปรษณีย์ แต่ก็ยึดอาชีพดีเจรถทัวร์หารายได้เสริมกว่า 2 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (12 ต.ค.) น.ส.ปิยะดา เฉียวทอง อายุ 27 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ พร้อมญาติกว่า 20 คน ได้พากันเดินทางมารับศพ นายปัญจพล ตรูสมูล อายุ 27 ปี พนักงานบุรุษไปรษณีย์ สาขาบางนา ซึ่งเป็น 1 ในผู้เสียชีวิต 19 ราย จากเหตุการณ์รถไฟบรรทุกตู้สินค้าพุ่งชนรถบัสทอดกฐินสามัคคี บริเวณสถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น ม.7 ต.บางเตย อ.เมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่ห่างจากวัดบางปลานัก จุดหมายปลายทางเพียง 4 กิโลเมตรเท่านั้น
โดยบรรยากาศการติดต่อขอรับศพที่สุสานสมาคมสงเคราะห์การกุศล หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา เป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะผู้เป็นมารดา และภรรยาที่เดินทางมาพร้อมกับบุตรสาววัย 9 ขวบ และ 1 ขวบ 6 เดือน ที่ยังคงร่ำไห้อยู่ตลอดเวลา
ขณะที่ภรรยาได้ร้องเรียกให้ร่างที่ไร้วิญญาณของสามีกลับบ้านพร้อมตนเอง จนสร้างความหดหู่ใจให้แก่ผู้พบเห็นจนหลายรายถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
น.ส.ปิยะดา บอกว่า แม้สามีจะมีอาชีพหลักคือการเป็นบุรุษไปรษณีย์ แต่เนื่องจากเป็นคนชอบความสนุกสนานและมักสร้างเสียงหัวเราะให้แก่คนรอบข้าง จึงยึดอาชีพเสริมด้วยการเป็นดีเจเปิดเพลงบนรถทัวร์ท่องเที่ยวมานานกว่า 2 ปีแล้ว
และในการรับงานครั้งล่าสุด สามีบอกกับตนเองว่าต้องการหาเงินทำบุญวันเกิดให้แก่ยายที่ได้เลี้ยงดูตนเองมาตั้งแต่เล็ก จึงรับงานดีเจเปิดเพลงให้แก่รถบัสคณะทำบุญงานกฐินที่เพิ่งเกิดเหตุสลดครั้งใหญ่ และสร้างความสูญเสียให้แก่หลายครอบครัว โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ครอบครัวตั้งรับไม่ทัน
น.ส.ปิยะดา ซึ่งอยู่ในสภาพน้ำตานองหน้าอยู่ตลอดเวลา ยังบอกอีกว่า ทางครอบครัวจะนำศพของสามีกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบางโปร่ง ม.2 ต.บางโปรง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ และจะทำพีธีสวดเป็นเวลา 5 คืน ก่อนที่จะทำพิธีฌาปนกิจ
“ไม่คิดว่าการจูบในช่วงเช้าวันเกิดเหตุจะเป็นการจูบลาครั้งสุดท้าย และเขาจะไม่มีวันกลับมาหาอีกแล้วทั้งชีวิตนี้ เพราะที่ผ่านมา สามีรับจ๊อบหารายได้พิเศษในวันหยุดเป็นประจำ ในครั้งนี้บอกว่าอยากจะหาเงินมาทำบุญวันเกิดให้ยายที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กในวันที่ 24 ต.ค.นี้ ซึ่งระหว่างจุดธูปเพื่อนำศพออกจากสุสานห้องเย็นบอกเขาตลอดว่า มารับกลับบ้านแล้วนะ กลับบ้านเราเถอะ น.ส.ปิยะดา กล่าว
ขณะที่บรรดาญาติๆ ของผู้เสียชีวิตยังได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดได้เข้ามาดูแลหรือเยียวยาจิตใจ และยังไม่เคยได้รับการติดต่อจากหน่วยงานราชการ ที่สำคัญขณะนี้บรรดาญาติๆ ต่างพากันโศกเศร้ากับการจากไปอย่างรวดเร็วจนรับไม่ได้
โดยขณะที่ทุกคนได้เดินทางไปเชิญวิญญาณที่จุดเกิดเหตุ ผู้เป็นพี่สาวได้พยายามช่วยกันค้นหาโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิต เนื่องจากต้องการเก็บภาพในโทรศัพท์เพื่อรักษาความทรงจำที่ดีครั้งสุดท้ายไว้
