เชียงราย - จนท.หลายหน่วยงานเฮกันลั่นท้องน้ำ.. หลังปฏิบัติการกู้เรือแม่โขงเดลต้า ที่จมน้ำมานาน 2 เดือนจนลอยลำชิดริมฝั่งไทยได้สำเร็จ
ความคืบหน้ากรณี “เรือแม่โขงเดลต้า” ของบริษัท แม่น้ำโขงเดลต้า ทราเวล เอเจนซี่ จำกัด เรือท่องเที่ยวแม่น้ำโขงที่มีน้ำหนัก 107 ตันกรอส ยาว 40 เมตร กว้าง 5.50 เมตร บรรทุกผู้โดยสารได้ 120 ที่นั่ง จมแม่น้ำโขงบริเวณหมู่ 3 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ชายแดนไทย-สปป.ลาว ตั้งแต่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทางจังหวัดเชียงราย ได้ตั้งเป็นศูนย์ปฏิบัติการพิเศษระดมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.เชียงราย ทหารกองกำลังผาเมือง กองทัพเรือ หน่วยเรือรักษความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย เจ้าท่าภูมิภาคสาขาเชียงราย ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงแสน การท่าเรือแห่งประเทศไทย ตชด.32 ตำรวจน้ำ หน่วยกู้ภัย ฯลฯ พยายามกู้เรือมาเกือบ 2 เดือนเต็มนั้น
ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถกู้เรือแม่โขงเดลต้าจนลอยลำขึ้นและดึงเรือเข้าชิดริมฝั่งไทยได้แล้ว จากนั้นได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จาก ปภ.และหน่วยงานต่างๆ สูบน้ำออกจากตัวเรือจนำแห้ง และเรือสามารถลอยลำขึ้นมาได้แต่เนื่องจากเรือหันหลังให้กับกระแสน้ำ จึงต้องใช้ลวดสลิงและเรือกาสะลองคำ 2 และเรืออื่นๆ ประกบควบคุมให้เรืออยู่ชิดกับฝั่งไทยเพื่อสำรวจความเสียหายและประเมินการซ่อมแซมต่อไป ท่ามกลางความโล่งใจของหน่วยงานต่างๆ ที่เข้าไปร่วมปฏิบัติการกู้เรือ เพราะแม้ว่าจะเป็นเรือของภาคเอกชนแต่เรือแม่โขงเดลต้า ถือเป็นเรือท่องเที่ยวในแม่น้ำโขงสัญชาติไทยลำแรกที่สร้างชื่อเสียงแก่ประเทศไทย และ จ.เชียงราย มายาวนานนับ 10 ปี
น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย และกรรมการผู้จัดการบริษัทแม่โขงเดลต้า ทราเวล เอเจนซี่ จำกัด กล่าวว่า เรือแม่โขงเดลต้าได้จดทะเบียนเป็นเรือสัญชาติไทยและรองรับนักท่องเที่ยวระยะใกล้ในแม่น้ำโขง มีมูลค่าประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งหลังประสบเหตุจมลงก็ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ โดยช่วงแรกคือการประคองให้เรือตั้งตรง เพราะตอนนั้นเรือมีสภาพเอียง โชคดีที่พื้นใต้ท้องเรือเป็นหินทำให้เรือตั้งตรงได้ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ใช้ลวดสลิงตรึงเรือให้ตรง โดยมีทหารเรือดำน้ำลงไปปฏิบัติการที่ใต้ท้องเรือ ก่อนใช้ถังน้ำมันและทุ่นประคองให้เรือตั้งตรงแล้วนำเรือดูดทราย และเรือแพขนานยนต์เข้าประกบด้านข้างก่อนจะผูกติดกับเรือแม่น้ำโขงเดลต้าให้แน่น แล้วสูบน้ำเข้าไปในเรือที่อยู่ด้านข้างเพื่อให้จมตามกันในระดับปลอดภัย เมื่อได้เวลาจึงสูบน้ำออก ผลที่ได้คือเรือแม่โขงเดลต้าก็ลอยลำขึ้นมาตามเรือที่หนีบอยู่ทั้งสองข้างดังกล่าว
น.ส.ผกายมาศกล่าวอีกว่า เมื่อเรือลอยลำขึ้นมาเหนือน้ำแล้วจึงได้เร่งสูบน้ำออกทั้งหมดจนท้ายเรืออยู่พ้นน้ำจึงได้สำรวจความเสียหาย เบื้องต้นพบว่าเครื่องยนต์หลักอาจจะไม่ต้องถอดออกมาซ่อมแซม เพียงนำน้ำออกทำให้แห้งก็อาจจะใช้การได้อีก ส่วนความเสียหายอื่นๆ อยู่ระหว่างการสำรวจเพื่อประเมินการดำเนินการในอนาคตต่อไป
“การกู้เรือที่จมในแม่น้ำโขงเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะเป็นปฏิบัติการที่ใช้กำลังคนมากโดยได้รับการช่วยเหลือจากทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน เช่น ทหารช่าง ทหารกองเรือลำน้ำและกองเรือยุทธการของกองทัพเรือ นรข.เขตเชียงราย ทหารกองกำลังผาเมือง ปภ.ที่สนับสนุนเครื่องสูบน้ำที่มีกำลังสูง จนทำให้น้ำแห้งเร็วมาก กรมเจ้าท่าที่ช่วยดูระดับน้ำให้ หน่วยกู้ภัยที่เตรียมความพร้อมกรณีอาจเกิดอุบัติเหตุด้วย”