นครปฐม - ปัญหาขัดแย้งในโรงเรียนลามไปทั่ว แม่นักเรียนชั้น ม.5 เข้าพบฝ่ายปกครองโรงเรียนชื่อดังเมืองนครปฐม แต่ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน ประกาศนั่งรอพบฝ่ายปกครอง หลังลูกสาวถูกรุ่นพี่นักเรียนหญิง ม.6 ในโรงเรียนกระชากผม สาเหตุจากการเล่นเฟซบุ๊ก และมองหน้ากัน
ปัญหาความขัดแย้งเรื่องความรุนแรงในโรงเรียนบานปลายไปทั่ว ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (30 ก.ย.) น.ส.จำปา นิลอิ่ม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 226 ม.9 ต.กรับใหญ่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี มารดาของ น.ส.เจน (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครปฐม ได้แชร์ข้อมูลลงโซเชียล โดยได้ระบุข้อความว่าบุตรสาวถูกรุ่นพี่กระชากผมและทำร้ายร่างกายและได้ไปแจ้งความ โดยมาขอพบกันเพื่อทราบการดำเนินการ แต่ถูกทางฝ่ายปกครองบอกว่าให้รอผู้ปกครองอีกฝ่าย แต่เมื่อพบเด็กคนทำร้ายกลับถูกมองหาเรื่องและบอกจะแจ้งความกลับ จึงขอประกาศจะรอไปจนถึงเวลา 08.30 น.ของเช้าวันรุ่งขึ้น
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้พบกับ น.ส.จำปา ซึ่งยังนั่งรอที่หน้าฝ่ายปกครอง ซึ่งเป็นช่วงเวลาใกล้ค่ำโดยที่ทั้งครู นักเรียนได้กลับบ้านไปแล้ว เหลือเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และภารโรงของโรงเรียนที่ยังคงทำงานอยู่ในบริเวณรั้วของโรงเรียนดังกล่าว โดยบอกว่า เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 ก.ย. เวลาประมาณ 14.00 น.ที่ผ่านมา ลูกสาวของตนเองได้แจ้งว่าถูกรุ่นพี่ นักเรียนหญิงชั้น ม.6 โรงเรียนเดียวกันได้เข้ามากระชากผมทำให้เสียหลักหกล้มมีบาดแผลที่หลังกกหู และหน้าแข้ง ตนเองจึงได้เดินทางมาที่โรงเรียนเพื่อมาพบกับคู่กรณี แต่ปรากฏว่า มาพบกับครู 3 คน ซึ่งบอกว่าไม่มีอำนาจตัดสินใจต้องให้พบกับอาจารย์ฝ่ายปกครองอีกท่านหนึ่ง จากนั้นตนเองได้พาลูกสาวไปแจ้งความและตรวจร่างกายดูบาดแผลไว้ก่อน
โดยวันนี้ครูได้เรียกลูกสาวเข้าไปคุยเพื่อสอบถามเรื่องราว โดยทราบสาเหตุว่าเกิดจากการโพสต์เฟซบุ๊ก และมีการมองหน้ากัน ซึ่งตนเองรู้สึกว่ามันมีความผิดปกติเนื่องจากไม่มีการเรียกคู่กรณีมาสอบถามหรือเรียกผู้ปกครองมาพบเพื่อสอบถามด้วยเช่นกัน และได้พบกับเด็กคู่กรณี แต่ก็พบว่ามีความก้าวร้าวและบอกว่าจะแจ้งความกลับโดยไม่มีความสลด ซึ่งตนเองได้ขออัดวิดีโอในการเจรจาพูดคุย แต่ครูฝ่ายปกครองบอกว่าถ้าอัดก็จะไม่คุยด้วย ซึ่งจากนั้นก็ไม่ได้คุยกับใครเลย และปล่อยให้นั่งรอโดยไม่บอกกล่าวอะไร
วันนี้จึงได้เดินทางมาเพื่อสอบถามเรื่องราวเพิ่มเติม แต่ก็ไม่ได้มีการให้พบใครเพียงแต่แจ้งว่าจะต้องรอให้ผู้ปกครองมาพบ แต่ก็ไม่ได้เรียกมาวันนี้ ตนเองจึงขอนั่งรอจนกว่าจะได้พบกัน แม้จะต้องนอนค้างที่นี่ก็จะขอรอ เพราะได้รับการแจ้งว่าจะมาพบในวันพรุ่งนี้เวลา 08.30 น. ซึ่งตนเองรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแก้ไขปัญหาในเรื่องลูกสาวถูกทำร้าย เพราะไม่ได้มีการเรียกผู้ปกครองฝ่ายกระทำมาพบกันในวันนี้
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ประจำตู้หน้าที่พักบริเวณใกล้เคียง ของ สภ.เมืองนครปฐม ได้เข้ามาเจรจาและทำความเข้าใจเพื่อให้ น.ส.จำปา ใจเย็นลงและยอมกลับบ้าน โดยพร้อมจะกลับมาพบกับคู่กรณีอีกในวันพรุ่งนี้