ศูนย์ข่าวศรีราชา - กรมเจ้าท่าติดเครื่องโครงการเสริมทรายหาดจอมเทียน หวังรักษาพื้นที่ชายฝั่ง สร้างความสวยงามเช่นหาดพัทยา ด้านผู้ประกอบการยิ้มร่าเชื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากจากการมีพื้นที่สันทนาการริมทะเลเพิ่มขึ้น เริ่มปี 65
จากกรณีที่กรมเจ้าท่า ซึ่งเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในการดำเนินโครงการเสริมทรายชาดหาดพัทยาจนแล้วเสร็จ หลังผลการศึกษาของสถาบันวิจัยทางน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า ชายหาดเมืองพัทยา อาจถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนเกิดความเสียหายและอาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว จนนำสู่การผลักดันงบประมาณกว่า 400 ล้านบาท ทำการเสริมทรายชายหาดเมืองพัทยาจนแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 62 นั้น
วันนี้ (29 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมเจ้าท่า ยังได้ทำการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อให้ดำเนินการศึกษาและจัดทำโครงการเสริมทรายหาดจอมเทียน ในระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ในเฟสแรก ก่อนที่จะต่อยอดอีก 3.5 กิโลเมตร จนสุดชายหาดดงตาล ในเฟสที่ 2 โดยจะดำเนินงานในปี 2565 ภายใต้งบประมาณ จำนวน 586 ล้านบาท ก่อนจะเว้นระยะห่าง 1 ปี เพื่อดำเนินโครงการเสริมทรายชายหาดบางแสน จ.ชลบุรี
โดยจุดประสงค์ของการจัดทำโครงการดังกล่าวก็เพื่อป้องกันการกัดเซาะหาดจอมเทียนต่อจากระยะเขตเทศบาลตำบลจอมเทียน อ.สัตหีบ ซึ่งจะใช้วิธีเดียวกับการเสริมทรายชายหาดพัทยา คือจะใช้เรือไปทำการดูดทรายจากใต้ท้องทะเลบริเวณเกาะรางเกวียน เพื่อนำกักเก็บไว้ยังสถานีที่ตั้ง อยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 1,000 เมตร จากนั้นจะทำการพ่นทรายไปยังชายฝั่งช่วงละ 100 เมตร กระทั่งเต็มตลอดแนว
อย่างไรก็ตาม การเสริมทรายชายหาดนาจอมเทียน จะไม่วางและฝังแนวถุงบิ๊กแบ็กแบบ Geo Tex-tile เหมือนชายหาดพัทยา ด้วยมีระยะความกว้างของชายหาดมากกว่าชายหาดพัทยา และไม่มีปัญหาการไหลของน้ำที่ท่วมจากผิวจราจรลงสู่พื้นที่ชายหาดจนพัดทรายไหลลงสู่ทะเล ซึ่งจากการคำนวณคาดว่าจะใช้ปริมาณทรายทั้งสิ้นกว่า 680,000 ลบ.ม.
โดยได้ทำการว่าจ้าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการถมทรายชายหาดพัทยาให้เข้าดำเนินการต่อ และจะมีระยะเวลาดำเนินการ 900 วัน
และจากการลงพื้นที่สำรวจความคืบหน้าโครงการ พบว่า ขณะนี้ได้เริ่มมีการก่อตั้งสำนักงานบริเวณชายหาดจอมเทียนซอย 13 แล้ว และจากการสอบถามผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว และบอกว่าจะทำให้หาดจอมเทียนมีความสวยงามเช่นเดียวกับชายหาดพัทยา
นายบุญมา ดีสมชื่อ ผู้ประกอบการร่มเตียงหาดจอมเทียน บอกว่า หลังทราบข่าวว่าจะมีโครงการเสริมทรายชายหาดจอมเทียน ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เห็นด้วย เพราะจะทำให้ชายหาดจอมเทียนมีพื้นที่กว้างขึ้น เมื่อนักท่องเที่ยวมาเยือนก็จะได้มีที่นั่งมากขึ้น
แต่ข้อกังวลของผู้ประกอบการคือ อยากให้มีการศึกษาโครงการให้ดี เพราะพื้นที่ชายหาดจอมเทียน เปิดหน้ารับลมทะเลและไม่มีเกาะกำบัง เหมือนชายหาดพัทยา จึงทำให้คลื่นที่ซัดกระทบชายฝั่งมีกำลังแรงกว่า โดยเฉพาะในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.ซึ่งเป็นช่วงลมมรสุมที่คลื่นจะแรงมากกว่าปกติจนเกรงว่าจะทำให้ทรายที่นำมาเสริมถูกคลื่นทะเลพัดลงน้ำ
"แต่หากไม่ดำเนินการใดๆ ก็จะทำให้คลื่นซัดน้ำขึ้นมาถึงขอบฟุตปาธในช่วงที่น้ำทะเลขึ้นจนนักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินเล่นบนพื้นชายหาดได้" นายบุญมา กล่าว
เช่นเดียวกับ นายยศพร หมอดู นักท่องเที่ยวที่บอกว่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาเที่ยวทะเลต้องการมีพื้นที่สันทนาการ เช่น การเล่นฟุตบอลชายหาด กิจกรรมไตรกีฬา รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ชอบนอนอาบแดด โครงการดังกล่าวถือว่าเป็นโครงการที่ดีโครงการหนึ่ง เพราะจะทำให้มีพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวได้ใช้สอยมากขึ้น เหมือนที่ชายหาดพัทยาที่ขณะนี้สวยงามมาก