กำลังจะย่างเข้าสู่เดือนตุลาคม เข้าสู่ช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี ที่เรียกได้ว่าเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวเต็มรูปแบบของไทย เริ่มจะหมดฝนหมดหน้ามรสุมต่างๆ ทำให้แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งในไทยที่ปิดให้บริการไปบางแห่ง ได้เตรียมพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้ โดยเราได้รวบรวมมาให้เลือกไปเที่ยวกันทั้งแหล่งท่องเที่ยวป่าเขาและแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลรวม 10 แห่งด้วยกัน
1. อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
หลังเผชิญกับเหตุการณ์ไฟป่าครั้งใหญ่เมื่อช่วงต้นปี ทำให้สภาพป่าบางส่วนบนอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย เกิดความเสียหายและไม่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว ทางอุทยานฯ จึงประกาศปิดการท่องเที่ยวบนภูกระดึงเร็วกว่าทุกปีถึง 2 เดือน (ปกติปิดตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน)
และในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ จะเป็นวันที่ภูกระดึงเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง หลังจากปิดเทอมใหญ่ให้ธรรมชาติได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ ซึ่งนักท่องเที่ยวหลายๆ คนก็คิดถึงภูกระดึงเต็มแก่ อยากจะไปสัมผัสความเหน็ดเหนื่อยยามเดินขึ้นภู ไปสัมผัสอากาศเย็นๆ ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น ไปถ่ายรูปกับต้นสนที่ผาหล่มสักกันแล้ว
สำหรับคนที่เตรียมตัวไปเที่ยวภูกระดึงอีกครั้ง 1 ต.ค. อย่าลืมลงทะเบียนจองเข้าอุทยานแห่งชาติล่วงหน้าผ่านแอพ QueQ ก่อน ซึ่งทางอุทยานฯ รับนักท่องเที่ยวได้ 2,000 คน/วัน และเมื่อไปถึงต้องเช็คอินแอพไทยชนะ ระหว่างท่องเที่ยวต้องรักษาระยะห่างและความเสี่ยงต่างๆ ด้วย ส่วนใครจะกางเต็นท์หรือพักบ้านพักอุทยาน ขณะนี้ก็สามารถเข้าไปจองในเว็บของอุทยานฯ กันได้แล้ว
2. น้ำตกทีลอซู เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง
“น้ำตกทีลอซู” ขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำตกที่ยิ่งใหญ่สวยงามที่สุดในเมืองไทย ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อ.อุ้มผาง จ.ตาก ในทุกๆ ปีจะมีการปิดเส้นทางรถยนต์ (เส้นทางถนน) สำหรับใช้วิ่งเข้า-ออกน้ำตก จากหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยหนองหลวงถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง เป็นระยะเวลา 3 เดือนช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ย. เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวเป็นฤดูฝน ทำให้ถนนลูกรังที่ใช้เดินทางเข้า-ออก น้ำตกทีลอซู มีสภาพเละจากดินโคลน การสัญจรเป็นไปด้วยความยากลำบาก และอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถยนต์ที่ไม่ชำนาญทาง รวมถึงยังเป็นการปิดเพื่อฟื้นฟูสภาพธรรมชาติอีกด้วย
และในวันที่ 1 ต.ค. เส้นทางถนนเข้าสู่น้ำตกทีลอซูจะเปิดให้บริการอีกครั้ง นักท่องเที่ยวสามารถนำรถยนต์เข้าสู่ตัวที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางได้เลย แต่รถยนต์ที่นำเข้าไปต้องเป็นรถที่ขับคลื่นสี่ล้อเท่านั้น เตรียมตัวไปสัมผัสกับสายน้ำเย็นฉ่ำของทีลอซูกันได้เลย
3. ดอยเสมอดาว อุทยานแห่งชาติศรีน่าน
สำหรับ “ดอยเสมอดาว” อุทยานแห่งชาติศรีน่าน อ.นาน้อย จ.น่าน นั้นได้เปิดให้เที่ยวชมได้ตามปกติแล้ว แต่ยังไม่ให้กางเต็นท์ค้างคืน แต่กำลังจะเปิดให้มาพักแรมกันได้ในช่วงเดือนตุลาคม-เดือนกุมภาพันธ์นี้
ดอยเสมอดาวนั้นเป็นจุดกางเต็นท์และจุดชมวิวที่งดงามของอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ในยามค่ำคืนหากท้องฟ้าโปร่งใสเป็นใจก็จะสามารถมองเห็นทะเลดาวระยิบระยับเต็มฟ้า ส่วนตอนเช้าหากมีสภาพอากาศเหมาะสมก็จะได้ชมทะเลหมอกแสนงาม รวมไปถึงพระอาทิตย์ที่ขึ้นมาเยี่ยมยามเช้าอีกด้วย ซึ่งจุดชมวิวนี้สามารถมองไปโดยรอบได้ 360 องศา และมีผาหัวสิงห์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย
4. อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก
เช่นเดียวกับที่อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ที่ในช่วงหลังสถานการณ์โควิดได้เปิดให้เที่ยวได้เฉพาะบ่อน้ำพุร้อนฝางเท่านั้น แต่ในวันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไปนี้จะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปกางเต็นท์ที่ลานกางเต็นท์กิ่วลม รวมถึงเดินป่าขึ้นยอดดอยผ้าห่มปกได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม-มิถุนายน
สำหรับยอดดอยผ้าห่มปกนั้น ถือเป็นยอดเขาที่มีความสูงเป็นอันดับ 2 ของไทย (รองจากดอยอินทนนท์) ส่วนลานกางเต็นท์กิ่วลม ก็ถือเป็นลานกางเต็นท์ที่สูงที่สุดในประเทศด้วยเช่นกัน ผู้ที่ไปกางเต็นท์ที่นี่จะสามารถเดินไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 3.5 ก.ม. เพื่อไปชมความงดงามของทะเลหมอกและทิวทัศน์สวยๆ บนยอดดอยผ้าห่มปกได้ด้วย
5. ผาชะนะได อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จ.อุบลราชธานี ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมบางส่วนไปตั้งแต่เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ส่วนในเดือน ต.ค. นี้ก็จะเปิดแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มเติมคือ “ผาชะนะได” ในพื้นที่ป่าดงนาทาม อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครในสยาม มาชมความงดงามของพระอาทิตย์ยามเช้าและทะเลหมอกที่สวยงาม
สำหรับ “ผาชะนะได” เป็นจุดที่ใช้คำนวณเวลาพระอาทิตย์ขึ้นแห่งแรกของเมืองไทย ที่ประมาณการโดยกรมอุตุนิยมวิทยา โดยพื้นที่บริเวณนี้เป็นดังส่วนคมขวานทองเมืองไทยที่อยู่ตะวันออกสุดของประเทศ พระอาทิตย์ที่นี่ขึ้นเป็นจุดแรกสุดในเมืองไทยก่อนกรุงเทพฯประมาณ 20 นาที วันไหนฟ้าดีจะเห็นดวงอาทิตย์ดวงกลมสุกแดง ยิ่งในช่วงหน้าหนาวอย่างนี้มีโอกาสเห็นทะเลหมอกได้เยอะทีเดียว
6. อุทยานแห่งชาติตะรุเตา
มาดูอุทยานแห่งชาติทางทะเลกันบ้าง หลังฤดูมรสุมผ่านพ้น ท้องทะเลไทยฝั่งอันดามันได้แปรเปลี่ยนจากคลื่นลมเกรี้ยวกราดเป็นท้องทะเลที่สงบสวยงาม อุทยานแห่งชาติทางทะเลหลายแห่งจึงเปิดให้นักท่องเที่ยวได้มาเยือนอีกครั้ง เช่นที่ "อุทยานแห่งชาติตะรุเตา" จ.สตูล ก็พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 ต.ค. นี้ พร้อมกันทุกเกาะ
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติตะรุเตาที่หลายคนตกหลุมรักก็คือ “เกาะหลีเป๊ะ” ที่เป็นดังเกาะในฝันสวรรค์ของคนรักทะเล "เกาะตะรุเตา" ที่ตั้งของที่ทำการอุทยานฯ และศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ทั้งยังมีร่องรอยประวัติศาสตร์ของการเป็นคุกกลางทะเล "เกาะไข่" ซุ้มประตูหินธรรมชาติที่สวยงาม "เกาะหินงาม" เกาะที่ไม่มีหาดทราย มีเพียงก้อนหินก้อนมนๆ อยู่เต็มหาด และ "เกาะอาดัง-ราวี" ที่มีน้ำใสทรายขาวสวยงาม
7. อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม
ส่วนอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง ซึ่งได้ปิดการท่องเที่ยวทางทะเลตามปกติทุกปีในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ย.ของทุกปี ก็ได้เปิดให้บริการท่องเที่ยวเฉพาะบางส่วน และในเดือน ต.ค. นี้ก็จะเปิดการท่องเที่ยวเพิ่มเติมคือ เกาะมุก เกาะกระดาน เกาะแหวน และเกาะเชือก
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่เป็นไฮไลต์ของอุทยานฯ และ จ.ตรังนั้นก็คือกิจกรรม “วันเดียวเที่ยว 4 เกาะ” อันได้แก่ “ถ้ำมรกต” ที่เป็นส่วนหนึ่งของเกาะมุก ซึ่งต้องลอยคอว่ายน้ำฝ่าความมืดเข้าไป ก่อนจะไปพบกับความงามของถ้ำมรกตที่สวยงามอัศจรรย์ “เกาะกระดาน” ที่ได้ชื่อว่ามีชายหาดสวยที่สุดแห่งท้องทะเลตรัง “เกาะแหวน” แหล่งดำน้ำตื้นชั้นดี มีปะการังสวยงามหลากสีสัน และ “เกาะเชือก” ที่มีปะการังงดงามและฝูงปลาจำนวนมากชวนให้ประทับใจ
8. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
หมู่เกาะสิมิลันอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา ซึ่งกำลังจะเปิดการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม-15 พฤษภาคมของทุกปี ให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมความสวยงามของทะเลไทย
หมู่เกาะสิมิลันประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่ 11 เกาะด้วยกัน โดยมีไฮไลต์อยู่ที่ “เกาะสิมิลัน” หรือ “เกาะแปด” เกาะที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในหมู่เกาะเหล่านี้ ด้วยธรรมชาติอันสวยงามน่ายลของหาดทรายที่ขาวเนียนละเอียดราวกับแป้ง อีกทั้งยังมีลักษณะเป็นหาดกว้างและโค้งยาวคล้ายเกือกม้า และน้ำทะเลใสเป็นประกายยามต้องแสงแดด ใต้น้ำนั้นก็สมบูรณ์ไปด้วยกองหิน แนวปะการัง และปลาสวยๆ งามๆ ที่สามารถดำน้ำตื้นชมได้อย่างสบายใจ
9. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ อยู่ในพื้นที่ของ อ.คุระบุรี จ.พังงา ถือเป็นหนึ่งในแหล่งดำน้ำตื้นที่ดีที่สุดในเมืองไทย ที่ในปีนี้กำลังจะเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวในวันที่ 15 เดือนตุลาคม-15 พฤษภาคม นี้
ที่นี่เป็นเขตอุทยานทางทะเลที่นักท่องเที่ยวสามารถพักค้างคืนนอนฟังเสียงคลื่นบนเกาะได้ โดยมีให้บริการทั้งบ้านพักและเต็นท์ของอุทยาน ซึ่งหากมีเวลาก็แนะนำให้ค้างบนเกาะสัก 1 คืน เพื่อสัมผัสบรรยากาศของเกาะรวมถึงท้องทะเลอย่างเต็มที่ และสำหรับจุดดำน้ำในอุทยานฯ นั้นก็มีหลายจุดด้วยกัน หลักๆ ก็คืออ่าวช่องขาด (อ่าวนีโม) อ่าวแม่ยาย อ่าวไม้งาม อ่าวสุเทพ รวมถึงไปชมวิถีชีวิตชาวเลที่หมู่บ้านมอแกนอีกด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถซื้อแพ็คเกจดำน้ำจากบริษัททัวร์ต่างๆ ได้
10. จุดชมวิวเกาะห้อง อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จ.กระบี่
จุดชมวิวแห่งนี้เพิ่งสร้างเสร็จและกำลังจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปชมได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้เป็นต้นไป เรียกได้ว่าจุดชมวิวแห่งนี้ถือเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของจังหวัดกระบี่ ที่ทางอุทยานฯ ได้จัดสร้างขึ้นบนยอดเขาของเกาะห้อง ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 109 เมตร ระยะทาง 239 เมตร บันได 419 ขั้น โดยจะก่อสร้างเป็นเส้นทางขึ้นเขา และลานชมวิวบนยอดเขาให้เราได้ขึ้นไปชมวิวแบบ 360 องศา ซึ่งจะเห็นบรรยากาศของหมู่เกาะห้อง ที่มีเกาะบริวารน้อยใหญ่กว่า 50 เกาะ โดยจุดดังกล่าวจะมองเห็นไปถึงเกาะยาว จ.พังงา เห็นทั้งเกาะพีพี ฯลฯ น่าตื่นตาตื่นใจกับความสวยงาม ขอบอกว่า 1 ต.ค. นี้ควรไปเช็คอินก่อนใคร
.........................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR