สั่งรื้อรีสอร์ตนอมินี "อดีตพลตรีหญิง" สร้างรุกเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม

กาญจนบุรี - กรมอุทยานฯ ติดประกาศสั่งรื้อพัสสาพาฎา รีสอร์ต ของนอมินี "อดีตพลตรีหญิง" ภายใน 7 วัน หลังสร้างรุกเขต อุทยานแห่งชาติเขาแหลม 

วันนี้ (28 ก.ย.) นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า จากนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำเนินคดีต่อนายทุนผู้บุกรุกป่าอย่างเด็ดขาด และให้ฟื้นฟูป่าในพื้นที่ของนายทุนที่ได้ยึดคืนมาได้ เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี และเป็นประโยชน์ของลูกหลาน ของประชาชนคนไทยทุกคน 

จากนโยบายดังกล่าว วันนี้ ตนเอง และนายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จำนวน 10 นาย ได้เดินทางมาติดป้ายประกาศคำเตือนให้ทายาทโดยธรรม หรือผู้จัดการมรดกของ น.จารุภา เดชจินดา เจ้าของรีสอร์ตชื่อ "พัสสาพาฎา รีสอร์ต" ต.ชะเล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี จำนวน 17 หลัง ที่สร้างบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จำนวน 2 ไร่ 3 งาน
 
โดยให้รื้อถอนรีสอร์ตไปให้พ้นจากเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ภายใน 7 วัน มิฉะนั้นแล้ว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จะนำกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมเข้าดำเนินการรื้อถอนรีสอร์ตดังกล่าวโดยทันที และต้องเสียค่าใช้จ่ายค่ารื้อถอน จำนวน 2 แสนบาทให้แก่ทางราชการอีกด้วย 


นายนิพนธ์ เปิดเผยต่อไปว่า มูลเหตุในการรื้อถอนรีสอร์ตดังกล่าวสืบเนื่องมาจากวันที่ 27 ก.ค.2559 หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ได้รับแจ้งจากประชาชนผู้หวังดีว่า มีอดีตพลตรีหญิง ได้ดำเนินการบุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และสร้างรีสอร์ตในบริเวณดังกล่าว จึงได้ไปตรวจสอบและดำเนินคดี ตรวจยึดรีสอร์ต จำนวน 17 หลัง

ต่อมามี น.ส.จารุภา เดชจินดา มาแสดงตัวและยอมรับว่าเป็นเจ้าของ แต่มีรายงานแจ้งว่า นางสาวจารุภา เป็นนอมินีของอดีตข้าราชการทหารยศพลตรีหญิง แต่เจ้าหน้าที่อุทยานเขาแหลมไม่สามารถสืบสวนเชื่อมโยง ดำเนินการกับอดีตพลตรีหญิงคนดังดังกล่าวได้ เพราะเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน


ต่อมา ศาลจังหวัดทองผาภูมิ ได้มีคำพิพากษา ลงวันที่ 24 ม.ค.2561 พิพากษาว่า น.ส.จารุภา จำเลย มีความผิด จำคุก 6 เดือน และปรับ 30,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 2 ปี และให้จำเลยและบริวารออกจากป่าที่เกิดเหตุ พร้อมชดใช้ค่าเสียหายด้านสิ่งแวดล้อมให้แก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นเงินจำนวน 103,379 บาท ต่อมา น.ส.จารุภา จำเลยอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีคำพิพากษายืนโทษจำคุก 6 เดือน ส่วนค่าปรับลดลงเหลือ 1 หมื่นบาท โทษจำคุกให้กำหนดรอการลงโทษไว้ 2 ปี จำเลยไม่ฎีกาต่อศาลฎีกา คดีจึงถึงที่สุด

ดังนั้น หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จึงได้ใช้มาตรการทางปกครองประกาศคำสั่งรื้อถอนรีสอร์ท ตามคำสั่งที่103/2560 ลงวันที่ 7 กันยายน 2560 และประกาศแจ้งเตือน ลงวันที่ 15 เมษายน 2563 ให้รื้อถอนรีสอร์ตไปให้พ้นจากเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ต่อมาทางอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ได้ทราบข่าวว่า น.ส.จารุภา ได้เสียชีวิตลง กองมรดกย่อมตกแก่ทายาทโดยทันที

เนื่องด้วยกองมรดก คือ ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตายที่มีอยู่ก่อนถึงแก่ความตาย รวมทั้งสิทธิ หน้าที่และความรับผิดชอบ การรื้อถอนจึงเป็นสิทธิหน้าที่ และความรับผิดชอบย่อมตกอยู่ที่ทายาทโดยธรรม ของผู้ที่ได้รับมรดกของ น.ส.จารุภา


หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จึงได้ส่งจดหมายประกาศคำเตือนไปให้ทายาทโดยธรรม ของ น.ส.จารุภา แจ้งให้ทราบในเรื่องการรื้อถอนแล้ว และมาติดประกาศคำเตือนอีกครั้งหนึ่งในพื้นที่ โดยประกาศให้ทายาทโดยธรรม หรือผู้จัดการมรดกของ น.ส.จารุภา ให้รื้อถอน" พัสสาพาฎา รีสอร์ท" จำนวน 17 หลังโดยให้รื้อถอนให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ 28 ก.ย.2563 นี้เป็นต้นไป

หากทายาทโดยธรรม หรือผู้จัดการมรดกยังไม่ทำการรื้อถอนภายใน 7 วันแล้ว ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จะเข้าไปดำเนินการรื้อถอนทันที โดยทายาทโดยธรรมที่ได้รับมรดกจาก น.จารุภา จะต้องเสียค่ารื้อถอนให้แก่ทางราชการ จำนวน 2 แสนบาท หลังจากทำการรื้อถอนรีสอร์ตเสร็จแล้ว กรมอุทยานฯ จะนำพื้นที่มาปลูกฟื้นฟูป่าให้กลับคืนมาเป็นสภาพป่าดังเดิม ตามนโยบายของรัฐมนตรีต่อไป