กาญจนบุรี - กรมอุทยานฯ เดินหน้านำป้ายคำสั่งปักรื้อถอนรีสอร์ต “กระท่อมริมธาร” รุกที่ อช.เขาแหลม ยันไม่สนคำขู่ของทนายความ หากพ้นกำหนด 7 วัน นำเจ้าหน้าที่รื้อถอนทันที
วันนี้ (10 ก.ย.) นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานฯ เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้มอบหมายให้นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม นายสุภาพ งามทองเหลือง ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม 10 นาย นำป้ายประกาศคำเตือนไปติดตั้งที่รีสอร์ต “กระท่อมริมธาร” เลขที่ 8/7 หมู่ 2 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
ทั้งนี้ เพื่อให้เจ้าของผู้ประกอบการคือ นายกิตติพงศ์ ต้นสมบูรณ์ และนางสมหวัง ต้นสมบูรณ์ อดีตข้าราชการครู รื้อถอนสิ่งก่อสร้าง รวมทั้งพืชผลอาสินทุกชนิดที่มีอยู่ในพื้นที่ออกไปให้พ้นเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันปิดประกาศ การติดประกาศครั้งนี้ถือว่าเป็นการประกาศเตือนครั้งสุดท้ายแล้ว โดยรีสอร์ตดังกล่าวสร้างเป็นบ้านพัก จำนวน 14 หลัง บนเนื้อที่ 2 ไร่ 1 งาน 45 ตารางวา
อย่างไรก็ตาม หากครั้งนี้ยังดื้อแพ่งไม่ยอมรื้อถอนภายใน 7 วัน ตามประกาศคำเตือนครั้งสุดท้าย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จะนำเจ้าหน้าที่เข้าทำการรื้อถอนโดยทันที และนำพื้นที่ที่ถูกบุกรุกจำนวนดังกล่าวมาฟื้นฟูให้กลับคืนมาเป็นสภาพป่าตามธรรมชาติดังเดิม เพื่อให้เป็นสมบัติของคนไทยทุกคนต่อไป
สำหรับการดำเนินการดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ให้ดำเนินการต่อนายทุนผู้บุกรุกป่าอย่างเด็ดขาด
ที่ผ่านมา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ได้มีประกาศคำสั่งรื้อถอนที่ 104/2560 ลงวันที่ 7 ก.ย.2560 และประกาศคำเตือนที่ 28/ 2563 ลงวันที่ 15 เม.ย.63 เพื่อให้ผู้ประกอบการรื้อถอนมาแล้ว แต่ปรากฏว่าเจ้าของยังดื้อแพ่งโดยไม่ยอมรื้อถอนแต่อย่างใด
นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สบอ.3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของกลุ่มนายทุนที่รุกที่เขตอุทยานแห่งชาติ ที่ผ่านมาสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ผู้ประกอบการบางรายยอมรื้อถอนด้วยตนเอง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้รับจดหมายจากนายกมนพฒน์ อุปการ ทนายความ สำนักงานธนเดช 10/5 หมู่ที่ 7 ตำบลคลองใหญ่ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก อ้างทำนองว่า ที่ดินรีสอร์ตดังกล่าว เป็นของนายสมาน หงษ์เอี่ยม ซึ่งเป็นบุคคลผู้ยากไร้ กำลังขออนุญาตทำประโยชน์ และอยู่อาศัยในที่ดินของรีสอร์ตดังกล่าว ต่อสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จประมาณเดือน พฤศจิกายน 2563
โดยขอให้ตนในฐานะผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) หรือหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม มีคำสั่งระงับการดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่เป็นรีสอร์ตในที่ดินแปลงดังกล่าวไว้ก่อน และยังแจ้งว่าหากมีการรื้อถอนรีสอร์ตจะสร้างความเดือดร้อน และเสียหายให้แก่นายสมาน หงษ์เอี่ยม บุคคลผู้ยากไร้เป็นอย่างมาก หากกรมอุทยานฯ ยังดำเนินการรื้อถอน จำเป็นที่จะต้องฟ้องร้องกรมอุทยานฯ ให้เป็นคดีความทั้งทางแพ่ง และทางอาญาอย่างถึงที่สุด
ในฐานะ ผอ.สบอ.3 (บ้านโป่ง) เห็นว่าที่ดินรีสอร์ตดังกล่าวตามที่นายกมนพฒน์ทนายความ กล่าวอ้างว่าเป็นของนายสมาน หงษ์เอี่ยม นั้น เป็นที่ดินแปลงเดียวกันกับของนายกิตติพงศ์ ที่ได้ถูกหัวหน้าอุทยานแห่งเขาแหลม ตรวจยึดพื้นที่ พร้อมรีสอร์ต จำนวน 14 หลัง และถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหา ยึดถือ ครอบครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมโดยมิได้รับอนุญาต ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2559
ต่อมา ศาลอาญาจังหวัดทองผาภูมิ ได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 227/2560 คดีหมายเลขแดงที่ 223/2560 ลงวันที่ 12 ตุลาคม 2560 พิพากษาว่า นายกิตติพงษ์
จำเลยมีความผิดฐาน ยึดถือ ครอบครองในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมโดยมิได้รับอนุญาต พิพากษาลงโทษจำคุก 6 เดือน และปรับ 2 หมื่นบาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ก่อน และให้นายกิตติพงศ์ (จำเลย) คนงาน ผู้รับจ้าง ผู้แทน และบริวารออกจากป่าที่เกิดเหตุ อีกทั้งยังให้นายกิตติพงศ์ (จำเลย) ชดใช้ค่าเสียหายแก่กรมอุทยานแห่งชาติฯ เป็นเงินจำนวน 101,499 บาท ซึ่งนายกิตติพงศ์ (จำเลย) ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ จึงถือว่าคดีนั้นถึงที่สุดแล้ว
นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สบอ.3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยท้ายสุดว่า จากคำพิพากษาศาลอาญาจังหวัดทองผาภูมิ เมื่อคดีดังกล่าวถึงที่สุดแล้ว ข้อเท็จจริงเป็นอันยุติว่า นายกิตติพงศ์ ต้นสมบูรณ์ เป็นผู้ครอบครองที่ดินรีสอร์ตที่ผิดกฎหมายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม
การที่นายกมนพฒน์ ทนายความอ้างว่า นายสมาน บุคคลผู้ยากไร้เป็นผู้ครอบครองที่ดินแปลงรีสอร์ต จึงขัดกับข้อเท็จจริงเป็นอันยุติแล้ว และทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) จึงให้ทางอุทยานแห่งชาติเขาแหลม นัดนายกมนพฒน์ ทนายความนำนายสมาน มาชี้แนวเขต และขอให้ยืนยันว่านายสมาน เป็นเจ้าของผู้ครอบครองที่ดินรีสอร์ตดังกล่าวจริง โดยได้มีการนัดหมายกัน
ในวันที่ 25 กันยายน 2563 เวลา 10.00 น.ที่บริเวณที่ดินรีสอร์ตจุดเกิดเหตุ โดยหากมาตามนัดและยืนยันตามที่กล่าวอ้าง ทางอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อนายสมาน และผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวต่อไปอย่างถึงที่สุด