นครปฐม - เผยเป็นตำรวจจริง บุกจับการพนันบ้านเช่า อ.สามพราน จ.นครปฐม แต่ไม่ใช่ตำรวจ สภ.โพธิ์แก้ว เจ้าของพื้นที่ แต่สังกัดตำรวจภูธรภาค 7 ชาวบ้านพร้อมให้อภัยแค่ขอโทษ คุณตาวัย 78 ปี หลานสาวหวั่นอาการผ่าตัดหัวใจกำเริบเพราะมีอาการปวดตัว ส่วนชายเจ้าของคลิปยันปฏิเสธเล่นการพนันเอาเงินหน้าบ้านเช่าพร้อมสู้คดีหากโดนแจ้งข้อกล่าวหา
จากกรณีที่เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า เกรียงไกร ไทยอ่อน ได้มีการโพสต์คลิปของการล้อมชาย 3 คน ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาทำการจับกุมบ่อนการพนันภายในบ้านเลขที่ 10 หมู่ 2 ตำบลบางกระทึก อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม และมีการทำร้ายร่างกายชายอายุ 78 ปี ด้วยการล็อกแขนและทับหลัง ขณะเข้าทำการจับกุม โดยทั้ง 3 คนไม่ยอมแสดงบัตรว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งชาวบ้านนับ 100 คน ได้แสดงความไม่พอใจจึงได้ทำการปิดล้อมชายทั้ง 3 คน จึงต้องมีการประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรโพธิ์แก้ว เข้ามาเจรจา ก่อนที่ชายทั้ง 3 คน จะขับรถลบออกไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (15 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เข้าติดตามข้อมูลที่ สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน เจ้าของพื้นที่ โดยเบื้องต้นได้มีการติดตามตรวจสอบ หลังจากที่ชาวบ้านได้มีการมาลงบันทึกประจำวันว่าให้มีการตรวจสอบว่าชายที่อ้างตัวเข้ามาจับกุมชาวบ้านที่กำลังนั่งดื่มสุรากันอยู่ ว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นตำรวจจริง แต่ไม่ได้สังกัดที่ สภ.โพธิ์แก้ว แต่อย่างใด แต่มีสังกัดอยู่ที่ตำรวจภูธรภาค 7 โดยมีการทำรายงานชี้แจงไปแล้วที่ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม และตำรวจภูธรภาค 7 ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้นสังกัดจะมีการติดตามข้อมูลต่อไป
ซึ่งขณะนี้ สภ.โพธิ์แก้ว ได้เตรียมทีมงานที่จะไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านแล้วเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ส่วนเรื่องการลงปฏิบัติหน้าที่ ที่มีตำรวจในเครื่องแบบใส่สายสะพายสีแดงในคลิปเป็นตำรวจในสังกัดภูธรโพธิ์แก้ว จริงซึ่งได้รับแจ้งจากโทรศัพท์ให้มาระงับเหตุว่ามีการทะเลาะและปิดล้อมชายทั้ง 3 คนไว้ จึงทำหน้าที่ระงับเหตุให้ไม่เกิดปัญหาบานปลายในช่วงที่มีชาวบ้านมาทำการปิดทางออกเอาไว้เท่านั้น
ขณะเดียวกัน นายเบล อายุ 29 ปี เจ้าของคลิปและอยู่ในเหตุการณ์ก็ยืนยันว่า การจับกุมดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาจับกุมน่าจะแสดงบัตรให้ชัดเจนจะได้ไม่มีปัญหา เพราะชาวบ้านเชื่อว่าอาจจะเป็นกลุ่มคนหลอกลวงเข้ามาเตรียมตบทรัพย์ จึงได้พยายามล้อมเอาไว้ ซึ่งการที่เขาจับกุมตัวนายสนิท อายุ 78 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของห้องเช่าที่พวกตนเช่าอาศัยอยู่ ถือว่ารุนแรงเกินไปกับการที่มาทำแบบนั้นกับคนสูงอายุ และเป็นคนที่ลูกบ้านเคารพด้วย ซึ่งชายทั้ง 3 คน ถ้าเป็นตำรวจจริงและเข้ามาจับกุมอย่างไม่ชัดเจนในวันนั้น ถ้ามีคำขอโทษก็พร้อมที่จะจบเรื่อง ส่วนการพนันขอยืนยันว่าไม่ได้เล่นเอาเงิน แต่เป็นการเล่น 2 คน เพื่อให้ผู้แพ้จะต้องเดินไปซื้อเหล้าและโซดากลับมานั่งกินกันต่อเท่านั้น
ส่วน น.ส.มิ้น อายุ 32 ปี หลานสาวของนายสนิท บอกว่า ก่อนเกิดเหตุตาของตัวเองได้มานั่งกินข้าวที่ร้านตรงปากทาง และเดินกลับเข้าไปนั่งคุยกับคนในวงเหล้า มีการบุกล็อกตัว และจับตัวลงกดกับพื้นจริง ซึ่งเห็นว่าการกระทำแบบนี้มีความรุนแรงเกินไป และวันนี้ได้นำตัวนายสนิท ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสามพราน เนื่องจากมีอาการปวดตัวและเกรงว่าการผ่าตัดหัวใจที่เพิ่งผ่าตัดมาเมื่อปลายปีก่อนจะเกิดการกำเริบ และเพื่อป้องกันสุขภาพของผู้สูงอายุไว้
สำหรับตัวเองคิดว่าอยากให้ตำรวจคนที่ก่อเหตุมาขอโทษก็จบ และขอให้ไต่ตรองให้ดีก่อนจะมีการบุกเข้าจับกุม โดยมีการแสดงบัตรให้ชัดเจนจะไม่เกิดปัญหาคาใจกับชาวบ้านดังที่เกิดขึ้น ซึ่งจนถึงวันนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดหรือใครเข้ามาติดต่อเพื่อชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด ซึ่งชาวบ้านก็รอทราบความจริงกันอยู่ด้วย