นครปฐม - ชาวบ้านนับ 100 คนไม่พอใจไลฟ์สด ชาย 3 คนอ้างเป็นเจ้าหน้าที่บุกจับการพนัน จับคนแก่เจ้าของบ้านเช่าอายุ 78 ปี กดลงพื้น โดยไม่ยอมแสดงตัวว่ามาจากหน่วยงานใด ชาวบ้านได้แจ้งความเพื่อตรวจสอบว่าชายทั้ง 3 คนเป็นตำรวจหรือไม่ และไม่พอใจพฤติกรรม
จากกรณีที่เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า เกรียงไกร ไทยอ่อน ได้มีการแชร์คลิปการทำงานคาดว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งกำลังทะเลาะกับชาวบ้าน โดยอ้างว่ามีการบุกเข้ามาเพื่อจับกุมการพนัน แต่ในคลิปปรากฏว่า ได้มีการทะเลาะและแสดงความไม่พอใจของชาวบ้าน โดยบอกว่ากลุ่มชายที่อ้างเป็นตำรวจได้มีการทำร้ายคนแก่ที่อยู่ในเหตุการณ์ และมีการปิดล้อมพื้นที่ก่อนจะมีการแยกย้ายหลบออกไป โดยในคลิปได้ระบุหัวข้อว่า เป็นพื้นที่อำเภอสามพราน ตำบลบางกระทึก และไม่ได้บอกรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นบ้านเช่าที่มีจำนวนห้องถึง 20 ห้อง ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ตำบลบางกระทึก อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม โดยผู้สื่อข่าวได้พบกับนายเบล อายุ 29 ปีอาชีพพนักงานขับรถ 6 ล้อ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวตัวเองเป็นผู้ถ่ายคลิปเอาไว้โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณบ่ายโมงของวันที่ 12 กันยายน ซึ่งเป็นวันหยุด ปกติพวกตนเองจะมีการตั้งวงเหล้านั่งดื่มที่หน้าห้องเลขที่ 10 กับเพื่อนๆ ทุกอาทิตย์
โดยในวันดังกล่าว พบว่า มีรถกระบะยี่ห้อมาสด้า 4 ประตูสีดำ ได้มาจอดที่หน้าห้อง และมีชาย 3 คนวิ่งกรูลงมา และล็อกคอตนเองและเพื่อน โดยหนึ่งในนั้นเป็นคนขับสวมหมวกสีแดง ได้ลงมาล็อกคอ และกดทับชายสูงอายุวัย 78 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของห้องเช่าให้นอนลงกับพื้น พร้อมกับบอกว่าอย่าหลบหนี เนื่องจากมาจับการพนัน ซึ่งยอมรับว่าในวงเหล้ามีไพ่อยู่ 1 สำรับ และมีการนั่งเล่นกันแต่ไม่ได้เล่นการพนันเป็นการนั่งเล่นกันเพื่อหาคนแพ้ให้เดินไปซื้อเหล้าและโซดา
สำหรับคนแพ้ซึ่งเงินที่วางอยู่ตรงนั้นก็เป็นเงินสำหรับซื้อเหล้า โดยช่วงเกิดเหตุตนเอง และชาวบ้านต่างตกใจ และรับไม่ได้กับพฤติการณ์ของชายทั้ง 3 คนที่อ้างว่าเป็นตำรวจ จึงได้พยายามขอดูบัตรแต่ก็ไม่มีใครยอมให้ดู ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวบ้านที่เป็นลูกบ้านของคุณตาเจ้าของห้องเช่า กว่า 100 คน ได้รวมตัวกันออกมาเพื่อปิดล้อมไม่ให้ชายทั้ง 3 คน หลบหนีออกไปจากพื้นที่
กระทั่งชายทั้ง 3 คนได้โทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจ สภ.โพธิ์แก้ว ให้มาช่วย ซึ่งชายทั้ง 3 คน ได้อาศัยช่วงเจรจาขับรถคันดังกล่าวหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
นายเบล กล่าวอีกว่า ทั้ง 3 คนได้ขับรถคันเดิมมาจอดดูด้วยตัวเองตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยใช้ป้ายทะเบียน 2 ฒจ 4002 กรุงเทพ มาจอดซุ่มดู และมีชาวบ้านถ่ายภาพไว้ได้ แต่วันที่มาได้ใช้รถคันเดิมแต่เปลี่ยนหมายเลขทะเบียนเป็นหมายเลข กน 9532 ซึ่งชาวบ้านได้รวมตัวกันไปแจ้งความที่ สภ.โพธิ์แก้ว เพื่อให้สอบถามว่าชายทั้ง 3 คนนั้นเป็นตำรวจหรือไม่ แต่พบชาย 1 คนที่เป็นตำรวจอยู่โรงพัก และปฏิเสธที่จะคุยกับพวกตน พวกตนจึงได้แจ้งความขอตรวจสอบว่าทั้งหมดเป็นตำรวจหรือไม่
ด้านนายสนิท แย้มเดช เจ้าของบ้านเช่า กล่าว ว่า ช่วงดังกล่าวตนเองเพิ่งกินข้าวเสร็จและกำลังเตรียมตัวไปตัดผม จู่ๆ ก็โดนบุกจู่โจมทุบหลัง โดยตนเองบอกว่าแก่แล้วหนีไปไหนไม่ได้ ซึ่งก็ตกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว วันนี้ ตนเองได้คุยกับลูกหลานได้ข้อยุติว่าตนเองจะไม่แจ้งความเรื่องถูกทำร้าย แต่อยากให้เข้ามาขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป เพราะตอนนี้ตนเองปวดหลังและเพิ่งฟื้นจากการผ่าตัดหัวใจร่างกายยังไม่แข็งแรง
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ประสานสอบถามไปยังตำรวจที่ สภ.โพธิ์แก้ว ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีข้อเท็จจริงอย่างไร ซึ่งได้รับคำตอบว่าตำรวจที่ก่อเหตุไม่ได้เป็นตำรวจในสังกัดแต่อย่างใด