อุทัยธานี - จนท.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งเร่งระดมกำลังผลักดันเสือโคร่งตัวเขื่องกลับเข้าป่า หลังพบรอยเท้าโผล่กลางไร่ข้าวโพดชาวบ้าน แถมเจอร่องรอยลากสุนัขเข้าไปในไร่ชัดเจน เตือนชาวบ้านเปิดไฟไว้ทั้งคืน ไม่จำเป็นอย่าออกจากบ้าน
นายเพิ่มศักดิ์ กนิษฐชาต หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งพบรอยเท้าเสือบริเวณทางเข้าไร่ของชาวบ้านเขาเขียว ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ห่างจากแนวเขตของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา
จากนั้นได้ส่งเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าเขาเขียว และประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำไปตรวจสอบ พบรอยเท้าเสือโคร่งบริเวณเส้นทางรถยนต์กลางไร่ข้าวโพด จึงติดตามตรวจสอบต่อเนื่อง จนถึงเวลาประมาณ 20.00 น.วันเดียวกันจึงพบเห็นตัวเสือโคร่ง เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งเตือนให้ชาวบ้านทราบ และจัดชุดเฝ้าระวังไว้ทั้งคืน
กระทั่งวันที่ 9 กันยายน 2563 เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ฯ ได้ออกติดตามร่องรอยอีกครั้ง ก็พบร่องรอยเสือโคร่งลากสุนัขเข้าไปในไร่ข้าวโพดด้วย
ด้านนายสมโภชน์ ดวงจันทราศิริ หัวหน้าสถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ และหัวหน้าฝ่ายวิชาการป่าไม้และสัตว์ป่า พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดประสานงานชุมชนและการติดตามสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จึงร่วมประชุมและให้ข้อมูลแก่ชาวบ้านเกี่ยวกับการปฏิบัติตัว
พร้อมกับวางแผนผลักดันเสือโคร่งกลับเข้าป่า โดยในช่วงกลางวันเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าเขาเขียว, หน่วยพิทักษ์ป่าซับฟ้าผ่า และเจ้าหน้าที่จากสถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ จะร่วมกันติดตามหาจุดที่เสือซ่อนตัว ส่วนเวลากลางคืน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งจะจัดกำลังเฝ้าระวังและลาดตระเวนรอบหมู่บ้านโดยรถยนต์ ใช้ไฟส่องสว่างเพื่อผลักดันเสือโคร่งกลับเข้าป่าโดยเร็ว
นอกจากนี้ ยังได้ส่งทีมผู้ประสานงานชุมชนและการติดตามสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ และทีมวิชาการป่าไม้และสัตว์ป่า ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ออกประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจกับผู้นำชุมชน ชาวบ้านในเรื่องพฤติกรรมของเสือโคร่ง แนะนำให้ชาวบ้านเปิดไฟให้สว่าง หรือก่อกองไฟไว้ตามที่พักหรือคอกปศุสัตว์ หากไม่มีกิจจำเป็นขอให้อยู่ในบ้าน โดยเฉพาะยามค่ำคืนไม่ควรออกจากบ้าน ถ้าจำเป็นให้ใช้รถยนต์เป็นพาหนะในการเดินทาง
ทั้งนี้ จากพฤติกรรมของเสือ และมาตรการการปฏิบัติในเบื้องต้น คาดว่าน่าจะผลักดันเสือกลับเข้าป่าได้ไม่เกิน 1 สัปดาห์ โดยวันนี้ (10 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ใช้โดรนบินในจุดบริเวณที่น่าจะเป็นพื้นที่ซ่อนตัวของเสือ เพื่อตามหาตัวแต่ก็ยังไม่พบ อย่างไรก็ตาม หากเสือตัวนี้ยังไม่กลับคืนสู่ป่า เจ้าหน้าที่จะได้วางแผนปฏิบัติงานใหม่อีกครั้ง