พนักงานพิทักษ์ป่าโพสต์อุทาหรณ์ หนุ่มรับจ้างเลี้ยงควายเจอเสือขย้ำหมา วิ่งหนีเจอเสือตะปบบาดเจ็บ วิ่งซอกแซกตามต้นไม้จนเสือหยุดตาม ก่อนแจ้ง จนท. ช่วยเหลือส่งโรงพยาบาล พบกรมอุทยานฯ เคยเตือนเจอเสือแล้วอย่าหนี ให้ขึ้นไปอยู่ที่สูงหรือปีนขึ้นต้นไม้
เฟซบุ๊ก Ammarit Silisakphaibul ซึ่งระบุว่าเป็นพนักงานพิทักษ์ป่า น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ได้โพสต์ข้อความบอกเล่าถึงอุทาหรณ์ระหว่างคนอยู่กับป่า เมื่อต้องเจอสัตว์ป่าดุร้ายอย่างเสือ ระบุว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ของวันที่ 18 ม.ค. ได้รับแจ้งเหตุว่ามีเหตุสัตว์ป่าทำร้ายคนบริเวณป่าบ้านองบะ เจ้าหน้าที่จึงร่วมตรวจสอบ พบนายมงคล (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี มีอาชีพรับจ้างเลี้ยงควาย มีบาดแผลตามตัว จึงช่วยเหลือนำส่งสถานีอนามัย ก่อนที่รถกู้ชีพกู้ภัยอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์นำส่งต่อโรงพยาบาลท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ เวลา 16.15 น. อย่างปลอดภัย
นายมงคล กล่าวว่า เวลาประมาณ 09.30 น. ตนได้ออกเดินตามหาสุนัขที่เลี้ยงไว้ ปรากฎว่าเมื่อเดินไปสักพัก พบว่าสุนัขที่ตนตามหากำลังถูกเสือกินอยู่ ด้วยความตกใจจึงวิ่งหนี ปรากฎว่าเสือตัวดังกล่าวกระโจนเข้าใส่ ตนจึงเอาแขนรับคมเขี้ยวไว้เพื่อกันใบหน้า แต่ก็โดนเล็บเข้ากลางริมฝีปากอยากจัง ตนพยายามสู้เพื่อเอาชีวิตรอด หลังจากสบัดหลุดจากคมเขี้ยวด้วยการวิ่งหลบไปมา โดยวิ่งซิกแซกหลบตามต้นไม้ สักพักเสือตัวดังกล่าวจึงหยุดตามแล้วหันกลับไปหาเหยื่อ ซึ่งก็คือสุนัขตัวเก่า ตนจึงได้หลบหนีแล้วพยายามขับรถจักรยานยนต์เพื่อขอความช่วยเหลือ
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายศักดิ์สิทธิ์ ซิ้มเจริญ หัวหน้ากลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เคยให้คำแนะนำเวลาที่พบเสือโคร่งในป่าว่า เสือโคร่งไม่ได้มีความก้าวร้าวหรือพยายามจะทำร้ายคน อาจจะเห็นคนเป็นเพื่อนร่วมโลกของเขาก็ได้ คนในป่ามีประสบการณ์จะขึ้นไปหลบบนต้นไม้ ซึ่งเสือโคร่งโดยปกติจะไม่ปีนบนต้นไม้ ถ้าเจอเสือตั้งแต่ไกลๆ ส่วนใหญ่เสือจะหลบ ไม่เดินเข้ามาหาเรา แต่ถ้าเสือเดินเข้ามาหาจริงก็ให้เดินขึ้นที่สูงเพื่อความปลอดภัย แต่ไม่ต้องวิ่ง ไม่ต้องหนีลนลาน เพราะเสือจะมองเห็นไม่ชัดว่าเป็นคนหรืออะไร อาจจะตกใจและวิ่งไล่ได้ ปกติไม่ควรจะหนี ส่วนการขึ้นต้นไม้ก็เป็นทางเลือกที่ดี