ประจวบคีรีขันธ์ - ไฟไหม้ร้านพลาสติกและร้านอะไหล่รถจักรยานยนต์กลางเมืองประจวบคีรีขันธ์วอด 6 คูหา เสียหายกว่า 20 ล้านบาท ฉีดน้ำกว่า 4 ชั่วโมงยังดับไม่สนิท
เมื่อเวลา 01.30 น. วันนี้ (10 ก.ย.) ร.ต.อ.หญิง รัตนาภรณ์ ทองจีน รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ร้านพลาสติกและข้างเคียง จำนวน 6 คูหา ถนนพิทักษชาติ ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ จึงประสานรถดับเพลิงจากหลายหน่วยงานประมาณ 20 คัน เจ้าหน้าที่กว่า 50 นายไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชุมพล บางจันทึก รอง ผกก.ปราบปราม พ.ต.ท.อัครวัฒน์ ไชยขวัญ รอง ผกก.สืบสวน ที่ร้านจำรัสพลาสติก และร้านอ๊อดไบค์ อะไหล่แต่ง เลขที่ 324/1 ถ.พิทักษ์ชาติ โดยเปลวไฟได้โหมกระหน่ำลุกไหม้ร้านพลาสติกซึ่งเป็นลักษณะโกดังเก็บของชั้นเดียว จำนวน 4 ห้อง และร้านอ๊อดไบค์ อาคารพาณิชย์ 2 ชั้น จำนวน 2 ห้อง จุดเกิดเหตุเริ่มต้นจากกลางร้านพลาสติก จากนั้นลุกลามอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากภายในร้านมีวัสดุติดไฟง่าย โดยมีไทยมุงกว่า 100 คนยืนมุงดูเหตุการณ์ และหลายรายใช้มือถือถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ โดยการไฟฟ้าได้ทำการตัดกระแสไฟที่พาดผ่านเสาไฟฟ้าถนนพิทักษ์ชาติ และถนนมหาราช 1 เนื่องจากร้านพลาสติกเป็นร้านขนาดใหญ่ ขายสินค้าเครื่องใช้จำนวนมาก ด้านหน้าติดถนนพิทักษชาติ และด้านหลังติดถนนมหาราช 1 มีความยาวจากหน้าร้านถึงหลังร้านประมาณ 30 เมตร ซึ่งเปลวไฟได้ลุกโชนเห็นแต่ไกล มีกลุ่มควันไฟฟุ้งกระจายในอากาศและมีกลิ่นเหม็นสารเคมีพลาสติก พร้อมทั้งมีเสียงระเบิดดังเป็นช่วงๆ
เจ้าหน้าที่กระจายกำลังที่ถนนทั้งสองฝั่งฉีดน้ำเข้าไปภายอาคาร และส่วนหนึ่งฉีดน้ำหล่อเลี้ยงบ้านข้างเคียง โดยมีอาคารพาณิชย์ร้านหมอทรงฉัตร ซึ่งอยู่ติดกับร้านพลาสติก และด้านหลังร้านอ๊อดไบค์ มีอาคารพาณิชย์ 2 ชั้นเป็นบ้านพักอาศัยติดกัน
ต่อมา นายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายชนพหล ส่งเสริม นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เดินทางมาในที่เกิดเหตุทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ซึ่งเปลวไฟที่โหมกระหน่ำทำให้เพื่อนบ้านข้างเคียงและฝั่งตรงข้ามไม่สามารถนอนหลับได้ ต้องออกมาดูเหตุการณ์ และเตรียมขนของหากไฟลุกลามไม่สามารถควบคุมได้
เนื่องจากถนนพิทักษ์ชาติเป็นถนนสายเศรษฐกิจ มีอาคารพาณิชย์เป็นร้านค้าและที่อยู่อาศัยจำนวนมากทั้งสองฝั่ง และความร้อนจากจุดเกิดเหตุไปไกลกว่า 50 เมตร ทำให้ไทยมุงที่ยืนดูอยู่ห่างๆ รู้สึกได้
น.ส.สุภัทรา สุทธิวิชัยพร อายุ 38 ปี เจ้าของร้านจำรัสพลาสติก กล่าวว่า หลังจากปิดร้านตนและครอบครัวได้กลับไปนอนบ้าน แต่ได้เปิดหลอดไฟส่องสว่างทิ้งไว้ 5 ดวงทุกคืน เพื่อให้เห็นภายในร้าน ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไร
ส่วนความเสียหายในเบื้องต้น ร้านพลาสติกประมาณ 10 ล้าน และร้านอะไหล่รถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นของญาติตนประมาณ 10 ล้าน ซึ่งร้านทำประกันอัคคีภัยไว้ แต่ไม่มั่นใจจะได้รับค่าชดเชยเท่ากับมูลค่าที่เสียหายทั้งหมดหรือไม่
