xs
xsm
sm
md
lg

ขู่บุกกรุง! ครูโคราชดิ้นร้อง “บิ๊กตู่” ช่วย จี้ทบทวนคำสั่ง ป.ป.ช.ไล่ครูออกแบบเหมาเข่ง สังเวยคดีโกงสนามฟุตซอลฉาว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ไม่จบง่าย! ครูโคราชอ่วมหนักดิ้นระดมพลขอความเป็นธรรมอีก พร้อมยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าฯ เรียกร้อง “บิ๊กตู่” ช่วย จี้ทบทวนคำสั่ง ป.ป.ช.ที่สั่งให้ครูออกจากราชการแล้ว 7 ราย และจ่อไล่ออกอีก 56 รายสังเวยคดีทุจริตสนามฟุตซอลฉาวแบบเหมาเข่ง ดันตั้ง กก.กลางขึ้นมาตรวจสอบใหม่โดยเร็ว ขู่เคลื่อนทัพใหญ่บุกกรุง

วันนี้ (9 ก.ย.) ที่ห้องประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดนครราชสีมา ดร.ปิยะพัชร์ เดชจรรยา เลขาฯ ชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริตเปิดโปงอย่างสร้างสร6รค์ รักษาและผดุงไว้ซึ่งจริยธรรมคุณธรรมของสังคม พร้อมด้วย นายปฐมฤกษ์ มณีเนตร ประธานชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมและสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมา ดร.ชูเกียรติ วิเศษเสนา อดีตผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 31 ได้เรียกประชุมครูที่ได้รับผลกระทบจากคดีทุจริตสนามฟุตซอลอีกครั้ง ภายใต้ชื่อ “ชุมนุมใหญ่ภาคประชาชน ชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมและสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมา” ซึ่งมีการติดป้ายเขียนข้อความตัดพ้อไว้ด้านหน้าและข้างเวทีว่า “ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มนุษย์ทนได้ทุกเรื่อง ยกเว้นความยุติธรรมจะทนไม่ได้” รวมทั้งป้ายข้อความอื่นๆ เช่น #SAVEครูโคราช, คนดีต้องมีที่ยืน เป็นต้น


โดยมี นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เดินทางมารับหนังสือขอความเป็นธรรม และรับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับกลุ่มครู เพื่อส่งมอบต่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีคำสั่งให้บุคลากรทางการศึกษาจำนวน 8 รายออกจากราชการ และยังจะมีคำสั่งไล่ออกจากราชการตามมาอีกจำนวน 56 ราย โดยไม่ได้รับความเป็นธรรม ท่ามกลางการดูแลความสงบเรียบร้อยของทหารและตำรวจกว่า 50 นาย

ดร.ปิยะพัชร์ เดชจรรยา เลขาฯ ชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริตเปิดโปงอย่างสร้างสรรค์ รักษาและผดุงไว้ซึ่งจริยธรรมคุณธรรมของสังคม เปิดเผยว่า หลังจากครูรวมตัวกันเคลื่อนไหวมาครั้งแรกเพื่อยื่นหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ล่าสุดได้รับหนังสือตอบกลับจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ค่ายสุรนารีว่า ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดนครราชสีมา ทราบว่าคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวนมติตามมาตรา 99 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561ของ ป.ป.ช.ตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค. 2563 โดยจะใช้ระยะเวลาประมาณ 30-45 วัน แล้วจะแจ้งให้คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานทราบต่อไป และในส่วนคดีอาญานั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการร่วมฝ่ายผู้แทนอัยการสูงสุดและผู้แทน ป.ป.ช.ตั้งแต่มิถุนายน 2563-ปัจจุบัน จึงต้องรอผลการพิจารณาของคณะกรรมการทั้ง 2 ชุดเพื่อดำเนินคดีต่อไป


ดร.ปิยะพัชร์ เดชจรรยา กล่าวอีกว่า วันนี้ผู้บริหารและครูในจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 64 คน ถูกไล่ออกจากราชการกรณีสนามฟุตซอล เราไม่อาจนิ่งเฉยและต้องลุกขึ้นสู้เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม จึงมีการเปิดเวทีเสวนาปัญหาและผลกระทบกรณีโครงการปรับปรุงสนามกีฬาพร้อมอุปกรณ์งบประมาณปี 2555 (สนามฟุตซอล) มีตัวแทนจากกลุ่มครูที่ถูกดำเนินคดีสาเหตุมาจาก 1. บุคลากรทางการศึกษา คุณครูในจังหวัดนครราชสีมาได้ถูกชี้มูลความผิดจาก ป.ป.ช. ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ จำนวน 8 คน และกำลังจะมีคำสั่งไล่ออกอีก 56 คน

2. บุคลากรทางการศึกษา ผู้ทรงคุณวุฒิหลายคน พิจารณาตรวจสอบพยานหลักฐานแล้วเห็นว่าเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องที่ได้ชี้มูลความผิดต่อบุคลากรทางการศึกษานั้นได้กระทำอย่างไม่มีพยานหลักฐานอะไรเลย มีอคติ ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 215 เป็นการกระทำแบบเหมาเข่ง เหมือนทำตามความต้องการของใครคนใดคนหนึ่ง โดยไม่เกรงกลัวกฎระเบียบข้อบังคับใดๆ

3. บุคลากรทางการศึกษาที่เดือดร้อนมิได้ร้องขอสิ่งที่เกินไปกว่าสิทธิอันพึงมีของพวกเขา คือ “ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย” ตอกย้ำถึงจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ว่า “มนุษย์ยอมทนได้ทุกเรื่อง ยกเว้นความอยุติธรรมจะทนไม่ได้” 4. ทางชมรมฯ เกรงว่าเรื่องนี้จะลุกลามใหญ่โต จะเกิดความวุ่นวายในสังคมไทย จึงขอเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและประชาชนผู้เสียภาษีในสังคมได้โปรดพิจารณาแก้ไขปัญหาโดยการแต่งตั้งคณะกรรมการที่เป็นกลางขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกับผู้เกี่ยวข้อง เช่น นักการเมือง, ผู้รับเหมา, ครู และอื่นๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายโดยเร็ว เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดที่แท้จริงมาลงโทษให้จงได้


5. พวกข้าพเจ้าจะขอต่อสู้เคลื่อนไหวในทุกช่องทางที่สามารถทำได้ ภายใต้กฎระเบียบข้อบังคับของสังคมไทย ขอเรียนว่าเป็นคำสั่งที่อัปยศขององค์กร ป.ป.ช.ที่มีต่อบุคลากรทางการศึกษาที่ไม่เคยมีมาก่อนในอดีต 6. ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 215 ได้บัญญัติไว้ว่า องค์กรอิสระเป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นให้มีความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย

“ทั้งนี้ หากข้อเรียกร้องยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเราจะกำหนดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ โดยจะมีการเรียกรวมพลที่ จ.นครราชสีมา ก่อนเคลื่อนทัพบุกเมืองหลวง แต่เราจะเคลื่อนไหวโดยสงบสันติ ซึ่งจะหารือกันอีกครั้ง” ดร.ปิยะพัชร์กล่าว

ด้าน นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ทางผู้นำครูได้มีการนำหนังสือเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลทั้งหมดมามอบให้ ซึ่งตนจะส่งมอบต่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงและความเดือดร้อนของกลุ่มครู เพื่อนำกลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้งหนึ่งสวนข้อเท็จจริงตนยังไม่ทราบถึงรายละเอียดเบื้องลึกเกี่ยวกับเรื่องเรียกร้องขอความเป็นธรรม ทาง ป.ป.ช.ก็มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ว่าองค์กรสามารถที่จะตั้งองค์กรกลางขึ้นมาตรวจสอบได้ จากนั้นต้องมีการสะท้อนแง่มุมต่างๆ ทางกฎหมาย เบื้องต้นจะนำเอกสารส่งผ่านไปทางนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับข้อเรียกร้องต่างๆ เพื่อให้ทบทวนคำสั่งเกี่ยวกับการไล่ข้าราชการครูออกจากราชการ แต่อย่างไรก็ต้องยึดหลักกฎหมายของประเทศชาติเป็นหลัก และตามเอกสารหลักฐานในการชี้มูลความผิด ขณะเดียวกันครูก็ยังไม่หวังหากนายกฯ พิจารณาดูแล้วอาจจะส่งเรื่องไปที่ ป.ป.ช. แต่ตราบใดที่คำสั่งยังไม่ออกเกี่ยวกับไล่ครูออกจากข้าราชการ หรือเรื่องยังไม่จบ ทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะเสนอข้อมูล ร้องขอความเป็นธรรมได้


ขณะที่ น.ส.พูนพิศมัย เปี่ยมสุวรรณ อายุ 50 ปี อดีตผู้อำนวยการ (ผอ.) โรงเรียนบ้านหินดาด อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 2 ซึ่งถูกให้ออกจากราชการตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. 2563 กล่าวว่า วันนี้ชีวิตล้มเหลวมาก ไม่รู้ชะตากรรม แผนที่เคยวางไว้ในอาชีพครูต้องพังทลายลงไป จะไปสมัครงานที่อื่นก็ไม่ได้เพราะถูกไล่ออกจากราชการ กลายเป็นตราบาปชีวิตไปตลอด วันนี้รู้สึกเสียใจเพราะ ป.ป.ช.ไม่ลงมาสอบข้อเท็จจริงไม่เคยมาสอบเส้นทางการเงินรวมถึงความสัมพันธ์กับนักการเมืองเพราะตนไม่เคยรู้จักนักการเมือง ไม่เคยคุยด้วยซ้ำและไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนแต่อย่างใด ทำหน้าที่ครูด้วยความตั้งใจ และไม่เคยเห็นงบแม้แต่บาทเดียว และโรงเรียนของตนเป็นโรงเรียนขยายโอกาสการได้โครงการสนามฟุตซอลก็เห็นว่าเหมาะสม ตอนส่งงานก็เรียบร้อยดีและมีเป็นร้อยโรงเรียนที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณมาพร้อมกัน ตนจึงไม่คิดเอะใจและเห็นว่าทุกอย่างทำถูกระเบียบจึงอยากขอความเห็นใจ










กำลังโหลดความคิดเห็น