นครราชสีมา - ครูอีสานหลั่งน้ำตาอ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกดำเนินคดีจาก ป.ป.ช. หลังผู้บริหารและครู 64 คนกำลังจะถูกไล่ออกกรณีคดีสนามฟุตซอล หันหน้าพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้สัตย์ปฏิญาณต่อแผ่นดิน โปรยทรายสาปแช่งหน่วยงานรังแกครู
วันนี้ (13 ส.ค.) ที่ห้องประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มครูภาคอีสาน-ครูโคราชได้รวมพลังเรียกร้องขอความเป็นธรรมกรณีสนามฟุตซอล โดยชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมา นำโดย ดร.ปิยะพชร์ เดชจรรยา เลขานุการชมรมฯ สืบเนื่องจากที่ผู้บริหารและครูในจังหวัดนครราชสีมาจำนวน 64 คนจะถูกไล่ออกจากราชการ กรณีสนามฟุตซอล ซึ่งครูทุกคนต่างเป็นทุกข์แสนสาหัส จึงไม่อาจนิ่งเฉยอยู่ได้ จำเป็นต้องลุกขึ้นสู้เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม
โดยมีการเปิดเวทีเสวนาปัญหาและผลกระทบกรณีโครงการปรับปรุงสนามกีฬาพร้อมอุปกรณ์งบประมาณปี 2555 (สนามฟุตซอล) มีตัวแทนจากกลุ่มครูที่ถูกดำเนินคดี ประกอบด้วย นายปฐมฤกษ์ มณีนาค ประธานชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมและสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมา, นายพิสิษฐ์ ชดกิ่ง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา (สพป.นม.1) อดีต ผอ.สพป.นม.เขต 3, ดร.ชูเกียรติ วิเศษเสนา อดีต ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 31 และนายบำรุง โลหะการก ผอ.ร.ร.บ้านโตนด อดีต ผอ.ร.ร.บ้านดอนชมพู (สังฆประชานุเคราะห์)
และมีพิธีให้สัตย์ปฏิญาณต่อแผ่นดิน ด้วยการโปรยทรายสาปแช่งหน่วยงานที่รังแกครู ก่อนจะร่วมกันร้องเพลง ครูในดวงใจ ซึ่งมีครูชายหญิงที่เข้าร่วมพิธีหลายคนถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา โดยมีครูจากจังหวัดนครราชสีมาและตัวแทนจากภาคอีสานเข้าร่วมกว่า 300 คน
ดร.ปิยะพัชร์ เดชจรรยา เลขานุการพิทักษ์ระบบคุณธรรมสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ด้วยชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรม และสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมา ชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริตฯ และพี่น้องประชาชนทั่วไป มีความห่วงใยประเทศชาติ ด้วยเกรงว่าจะเกิดความเดือดร้อนวุ่นวายในสังคม ในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งสาเหตุมาจาก 1. บุคลากรทางการศึกษา คุณครูในจังหวัดนครราชสีมาได้ถูกชี้มูลความผิดจาก ป.ป.ช. ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ จำนวน 7 คน กำลังจะมีคำสั่งไล่ออกอีก 55 ราย ในกรณีสนามฟุตชอลที่เป็นข่าวปรากฏตามสื่อต่างๆ
2. บุคลากรทางการศึกษา ผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่านพิจารณาตรวจสอบพยานหลักฐานแล้วเห็นว่า เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ชี้มูลความผิดต่อบุคลากรทางการศึกษานั้นได้กระทำอย่างไม่มีพยานหลักฐานอะไรเลย มีอคติ ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 215 เป็นการกระทำแบบเหมาเข่ง เหมือนทำตามความต้องการของใครคนใดคนหนึ่ง โดยไม่เกรงกลัวกฎระเบียบข้อบังคับใดๆ ของสังคม 3. บุคลากรทางการศึกษาที่เดือดร้อนมิได้ร้องขอสิ่งที่เกินไปกว่าสิทธิอันพึงมีของพวกเขา คือ “ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย” ตอกย้ำถึงจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ว่า “มนุษย์ยอมทนได้ทุกเรื่อง ยกเว้นความอยุติธรรมจะทนไม่ได้”
4. ทางชมรมฯ เกรงว่าเรื่องนี้จะลุกลามใหญ่โต จะเกิดความวุ่นวายในสังคมไทย จึงขอเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและประชาชนผู้เสียภาษีในสังคมได้โปรดพิจารณาแก้ไขปัญหา โดยการแต่งตั้งคณะกรรมการที่เป็นกลางขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกับผู้เกี่ยวข้อง เช่น นักการเมือง, ผู้รับเหมา, ครู และอื่นๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายโดยเร็ว เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดที่แท้จริงมาลงโทษให้จงได้ 5. พวกข้าพเจ้าจะขอต่อสู้เคลื่อนไหวทุกช่องทางที่สามารถทำได้ ภายใต้กฎระเบียบข้อบังคับของสังคมไทย ขอเรียนว่าเป็นคำสั่งที่อัปยศขององค์กร ป.ป.ช.ที่มีต่อบุคลากรทางการศึกษาที่ไม่เคยมีมาก่อนในอดีต
6. ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 215 ได้บัญญัติไว้ว่า องค์กรอิสระเป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นให้มีความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย การปฏิบัติหน้าที่และการใช้อำนาจขององค์กรอิสระต้องเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม กล้าหาญ และปราศจากอคติทั้งปวงในการใช้ดุลพินิจ พวกข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่าหากปัญหาดังกล่าวนี้ไม่ถูกแก้ไขอย่างทันการณ์ คนไทยอาจได้เห็นปรากฏการณ์เช่นนั้นอีก และพวกเราจะยกฐานะในการเรียกร้องต่อไป
สำหรับช่วงเย็นวันเดียวกันนี้กลุ่มครูจะเดินทางไปแสดงพลังที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) และทำพิธีให้สัตย์ปฏิญาณต่อแผ่นดิน ว่าไม่มีเจตนาทุจริตกรณีสนามฟุตซอลและถูกรังแกจาก ป.ป.ช. และในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปยื่นหนังสือเปิดผนึกต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา แม่ทัพภาคที่ 2 และ ป.ป.ช.จังหวัดนครราชสีมา รวมถึงศึกษาธิการภาค 13 และศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา
