อุดรธานี - โปรดทราบนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปถ้ำนาคา อยากเห็นก้อนหินคล้ายหัวและลำตัวพญานาคกับตาตัวเองจองคิวล่วงหน้ากับอุทยานแห่งชาติภูลังกาผ่านแอปพลิเคชัน QueQ เชื่อวันหยุดยาวนี้คิวล้นแน่
ถ้ำนาคา อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ กลายเป็นอีกปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วไทยที่ต้องการมาเห็นด้วยตาตัวเองว่าก้อนหินประหลาดที่ค้นพบและร่ำลือกันนั้นคล้ายหัวและลำตัวของพญานาคราชมากแค่ไหน จนทำให้ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ อุทยานแห่งชาติภูลังกาสถานที่ตั้งถ้ำนาคาคลาคล่ำไปด้วยผู้คนทั้งในภาคอีสานเองและภูมิภาคอื่นๆ
นางภาวนา ประจิตต์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุดรธานี เปิดเผยว่า “ถ้ำนาคา” ถูกค้นพบและเป็นข่าวผ่านสื่อโซเชียลเมื่อราวต้นปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงสถานการณ์ Covid-19 กำลังแพร่ระบาด ปกติถ้ำนาคาแห่งนี้เป็นที่รู้จักของชาวบ้านในท้องถิ่นอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้รับการโปรโมตอย่างเป็นทางการให้เป็นสถานที่ที่สามารถท่องเที่ยวได้ ซึ่งการค้นพบและเผยแพร่ภาพก้อนหินคล้ายหัวและลำตัวพญานาคในถ้ำนาคาดังกล่าว เป็นการค้นพบโดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา เขตจังหวัดนครพนม และช่างภาพเขตพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ที่ได้ร่วมกันสำรวจร่วมกัน
หลังจากนั้นได้มีการนำภาพไปโพสต์ในสื่อโซเชียลมีเดียและมีการแชร์ภาพออกไปแพร่หลาย “ถ้ำนาคา” แห่งนี้ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่สามารถผนวกเข้ากับความเชื่อทางพระพุทธศาสนาที่มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพญานาคที่ผูกโยงกับแม่น้ำโขงเข้ามาเกี่ยวข้อง
ข้อมูลวิกิพีเดียระบุว่า “อุทยานแห่งชาติภูลังกา” ครอบคลุมพื้นที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม และ อ.เซกา อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ มีเนื้อที่ประมาณ 31,250 ไร่ หรือประมาณ 50 ตารางกิโลเมตร จุดเด่นที่น่าสนใจ คือ น้ำตกตาดขาม (อ.บ้านแพง, นครพนม), น้ำตกตาดโพธิ์ (อ.บ้านแพง, นครพนม), น้ำตกตาดวิมานทิพย์ (อ.บึงโขงหลง, บึงกาฬ), น้ำตกกินนรี (อ.บึงโขงหลง, หนองคาย)
นางภาวนากล่าวถึงแนวทางการส่งเสริมโปรโมต “ถ้ำนาคา” ในเขตอุทยานแห่งชาติภูลังกาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่เชิงธรรมชาตินั้น ทาง ททท.สำนักงานอุดรธานีซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ขณะนี้ได้บรรจุให้เป็นอีกจุดหมายปลายทางหนึ่งที่น่าสนใจ ถ้ำนาคาถือได้ว่ามีองค์ประกอบครบโดยเฉพาะการมีเรื่องเล่าท้องถิ่นที่เชื่อมโยงกับความศรัทธาความเชื่อในพระพุทธศาสนา การมีเส้นทางไปยังจุดสถานที่ท่องเที่ยวที่จัดได้ว่า Unseen เพราะอยู่ในป่าเขาน่าท้าทายค้นหา
ประจวบเหมาะกับกระแสในสื่อโซเชียลเป็นอีกแรงกระตุ้น เชื่อว่าสามารถพัฒนาเป็นสินค้าทางการท่องเที่ยวได้อย่างมีศักยภาพ
โดยหลังจากนี้ ททท.จะมีการส่งเสริมให้มีการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย โดยเราจะได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นทางจังหวัดบึงกาฬหรือทางอุทยานแห่งชาติภูลังกา ให้ความรู้ให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตามกฎระเบียบ ร่วมมือกันประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวรับรู้และคำนึงถึงความปลอดภัยในการท่องเที่ยว
นางภาวนากล่าวอีกว่า นอกจาก “ถ้ำนาคา” จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดบึงกาฬที่กำลังมาแรงแล้ว จ.บึงกาฬยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น วัดเจติยาศรีวิหาร (วัดภูทอก), หินสามวาฬ ภูสิงห์ น้ำตกถ้ำพระ น้ำตกเจ็ดสี และชุมชนบ้านสะง้อที่มีสินค้าของฝากของที่ระลึกที่น่าสนใจ
“ช่วงเข้าพรรษาที่ผ่านมาพบว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปท่องเที่ยวถ้ำนาคา จนเกิดปัญหานักท่องเที่ยวล้น ตอนนี้อยู่ระหว่างการวางแผนจัดการร่วมกันระหว่างจังหวัดบึงกาฬ และอุทยานแห่งชาติภูลังกาที่จะให้การบริหารสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ไม่มีปัญหา อยากขอฝากถึงนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปเยี่ยมชมถ้ำนาคา ทุกท่านต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของอุทยานแห่งชาติอย่างเคร่งครัด” นางภาวนากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูลังกา หรือถ้ำนาคา ให้ทำการจองคิวล่วงหน้าใน “แอปพลิเคชัน QueQ” และหากนักท่องเที่ยวที่ต้องการเจ้าหน้าที่นำทางขึ้นเขาทางไกล/พักแรมบนเขา /จองบ้านพัก /กางเต็นท์พักแรม สามารถจองทาง line id : plk12345678 หรือโทร. 08-4792-3505 หรือ 0-4253-0766 ได้ในเวลา (09.00-16.00 น.)