จันทบุรี - จ่อล้มละลาย! ชาวสวนลำไยจันทบุรี เหตุขาดแคลนแรงงานอย่างหนักสวนทางผลผลิตใกล้ออกสู่ตลาดต้นเดือน ก.ย.นี้ ชี้หากรัฐยังไม่เร่งผ่อนปรนการนำเข้าแรงงานถูกกฎหมาย ชาวสวนนับหมื่นครัวเรือนมีสิทธิถูกยึดที่ดินทำกิน
วันนี้ (28 ส.ค.) นายบุญช่วย โตประเสริฐ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเขาแดงพัฒนา ม.17 ต.ทับช้าง อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ได้นำผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบสวนลำไยใน ต.ทับช้าง ซึ่งในขณะนี้อยู่ในช่วงใกล้เก็บเกี่ยวผลผลิตซึ่ง อ.สอยดาว และ อ.โป่งน้ำร้อน มีเกษตรกรผู้ปลูกลำไยนับแสนไร่ และสวนลำไยหลายแห่งเริ่มให้ผลผลิตเต็มที่
แต่เจ้าของสวนกลับต้องประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน จากการไม่สามารถเดินเข้าประเทศไทยของแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย ซึ่งเป็นผลกระทบจากกสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นายบุญช่วย ยังบอกอีกว่า อ.สอยดาว และ อ.โป่งน้ำร้อน ถือเป็นพื้นที่ที่มีการเพาะปลูกลำไยมากที่สุดในภาคตะวันออก และขณะนี้เกษตรกรเจ้าของสวนต่างกำลังรอแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาช่วยเก็บลำไยออกขาย ประกอบกับในปีนี้ล้งรับซื้อผลไม้ไม่ออกตระเวนรับซื้อผลผลิตจากสวน เนื่องจากติดขัดเรื่องแรงงานจึงทำให้ไม่กล้าเสี่ยงในการลงทุน
“เมื่อล้งไม่รับซื้อและชาวบ้านเองก็มีทุนรอนจำกัด เพราะที่ผ่านมา ต่างพากันนำสวนผลไม้ไปจำนองไว้กับธนาคารเพื่อนำเงินมาลงทุน จึงทำให้ขณะนี้ทุกคนอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการล้มละลายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเขาแดงพัฒนา กล่าว
ด้าน นายวินนา ศรีสงคราม ประธานชมรมชาวสวนลำไย อ.สอยดาว บอกว่า หากถึงต้นเดือน ก.ย.นี้ ยังไม่มีแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าช่วยเก็บลำไย เกษตรกรก็อาจถึงขั้นล้มละลาย เนื่องจากสวนลำไยต้องการแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างน้อย 20,000 คนเข้ามาช่วยเก็บผลผลิตอย่างช้าที่สุดคือต้นเดือน ก.ย. ไปจนถึงเดือน เม.ย.นี้
แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีแรงงานกลับเข้ามาจึงทำให้ล้งมีความหนักใจไม่น้อยไปกว่าชาวสวน เพราะเกรงว่าหากรับซื้อลำไยแล้วไม่มีแรงงานเข้ามาช่วยเก็บก็จะทำให้เกิดความเสียหายได้
“หากรัฐบาลไม่อนุมัติให้แรงงานต่างด้าวถูกกฎหมายกลับเข้าประเทศในเวลาอันใกล้นี้ก็เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อชาวสวนนับหมื่นครอบครัวอย่างมหาศาล จึงขอวิงวอนให้รัฐบาลหาแนวทางผ่อนปรนเรื่องแรงงานต่างด้าว เนื่องจากผลผลิตลำไยจำนวนมากที่กำลังจะออกมาไม่สามารถรอนานได้” ประธานชมรมชาวสวนลำไย อ.สอยดาว กล่าว