กาญจนบุรี - แก๊งมอดไม้หัวใส ใช้ตะกร้าผัก กระสอบปุ๋ยขี้วัว ใส่รถสอดไส้ไม้มะค่าโมงแปรรูป ตบตาเจ้าหน้าที่ สุดท้ายไม่รอดเหตุขณะเร่งเครื่องรถขึ้นเนินรถหนัก เจ้าหน้าพบความผิดปกติ
วันนี้ (24 ส.ค.) นายฐิติ โสนมภีร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากนโยบายเข้มของผู้บังคับบัญชา โดยล่าสุด วานนี้ (23 ส.ค.) ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจส่วนกลางร่วมกับเจ้าหน้าที่จากชุดลาดตระเวน 4 (เขาเขียว-เขาวงศ์-ห้วยปิ่นทอง) และเจ้าหน้าที่จากหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.13 (แสวงป่า) ให้ร่วมกันตั้งจุดตรวจบริเวณเส้นทางผ่านเข้า-ออก ด่านตรวจเขากระชาย พิกัด 0532019 E 1645291 N ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ท้องที่ ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
จนกระทั่งเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน สีน้ำตาล ตอนเดียว หมายเลขทะเบียน บธ 9239 กาญจนบุรี วิ่งผ่านมา โดยกระบะของรถยนต์ดัดแปลงเป็นแผงเหล็กสำหรับบรรทุกสิ่งของ ซึ่งเจ้าหน้าที่พบว่ารถยนต์คันดังกล่าวนั้นบรรทุกอุปกรณ์การเกษตรมาเต็มคันรถ มีทั้งตะกร้าผัก และกระสอบปุ๋ยขี้วัว
ครั้งแรกที่เห็นเจ้าหน้าที่ไม่ได้สงสัยอะไร แต่ระหว่างที่คนขับได้พยายามเร่งเครื่องรถยนต์เพื่อขึ้นเนิน ปรากฏว่าลักษณะของรถยนต์คล้ายกับบรรทุกของหนักมาก ทางเจ้าหน้าที่จึงเกิดเอะใจ แล้วขอเข้าไปตรวจสอบด้วยการช่วยกันยกอุปกรณ์การเกษตรที่อยู่ท้ายกระบะออกทั้งหมด
ผลปรากฏว่า มีผ้าคลุมวางทับอยู่อีกหนึ่งชั้น เมื่อดึงผ้าคลุมออกพบไม้มะค่าโมงแปรรูปสภาพสดใหม่ ถูกซุกซ่อนเอาไว้ในกระบะนับได้ จำนวน 27 แผ่น ปริมาตรรวมกัน 0.345 ลูกบาศก์เมตร จากการตรวจสอบไม้มะค่าโมงโดยละเอียดไม่ปรากฏรอยตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือรูปรอยตรารัฐบาลขายแต่อย่างใด โดยไม้มะค่าโมงเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ลำดับที่ 112 ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ.2530
เจ้าหน้าที่จึงได้คุมตัวนายสละ รอดวัด อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86/43 หมู่ 12 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนขับ และนายศุภโชด มีแก้ว อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/25 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ที่มาด้วยกันเอาไว้ โดยทั้ง 2 คนยอมรับว่าไม้จำนวนดังกล่าวเป็นของพวกตนจริง แต่ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลว่านำไม้มาจากที่ใด
ดังนั้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงทำบันทึกเรื่องราว พร้อมนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนส่งพนักงานสอบสวน สภ.ด่านแม่แฉลบ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหาฐานกระทำความผิดว่าด้วยการป่าไม้ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 พระราชบัญญัติป่าสงวน พ.ศ.2504 และพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2563