ผู้จัดการออนไลน์ - เกษตรกรภาคกลางเอาด้วย ขานรับ “รวมไทยสร้างชาติ” ผนึกหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น ขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สนองพระราชดำริในหลวง
วันนี้ (18 ส.ค.) ที่ร้านกาแฟอเมซอน ซอยวิภาวดี 64 เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร นายอานนท์ แสนน่าน ประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย พร้อมด้วยนายองอาจ วิเศษ ประธานเครือข่ายภูมิปัญญาชุมชนท้องถิ่นไทย พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ ประธานที่ปรึกษาเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย นางธนภัทร พันธวาส ประธานเครือข่ายกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแห่งประเทศไทย
นายสมชัย แสงทอง รองประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นไทยภาคเหนือ นางนิตยา นาโล รองประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นไทยภาคอีสาน พร้อมคณะผู้บริหาร ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และสมาชิกเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจ ร่วมประชุมหารือการปรับเปลี่ยน “หมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นไทย” ขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จาก “ร.๙ ถึง ร.๑๐ สู่ผองไทยทั่วแหล่งหล้า สืบสาน รักษา ต่อยอด สร้างสุขปวงประชา”
นายอานนท์ แสนน่าน ประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศยุทธศาสตร์ชัด จะปรับปรุงการทำงานของรัฐบาลเป็นแบบ “วิถีปกติใหม่” หรือ “New Normal” แบ่งเป็น 3 แนวทางหลัก คือ 1.ผนึกทุกภาคส่วนร่วมวางอนาคตประเทศไทย เปิดโอกาสให้ประชาชนซึ่งเป็นผู้ที่จะได้รับผลจากนโยบายต่างๆ ได้มีส่วนร่วม รัฐบาลต้องได้ยินเสียงของประชาชน และรับฟังความคิดเห็นประชาชนให้มากขึ้น
2.การประเมินผลงานภาครัฐ เปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีบทบาทประเมินผล และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ให้ผู้บริหารระดับสูงในรัฐบาลได้รับทราบโดยตรงได้ด้วย และ 3.ทำงานเชิงรุกในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและรุนแรง โดยรัฐบาลกำหนดนโยบายสำคัญเร่งด่วนที่เหมาะสมต่อสถานการณ์ สร้างประโยชน์ให้ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยนายกฯ จะติดตามกำกับดูแลด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิด
ด้วยเหตุนี้ ตนจึงประสานงานกับกลุ่มเกษตรกรเพื่อมาร่วมกับทาง “เครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย” จัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เพราะที่ผ่านมา เกษตรกรที่ประกอบอาชีพต่างๆ ประกอบกิจการโดยชุมชนเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตทั้งด้านการผลิต การค้า และการเงิน และต้องการใช้ปัจจัยการผลิตนี้ให้เกิดดอกผลทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม
ด้านเศรษฐกิจ คือสร้างรายได้และอาชีพ ด้านสังคม คือยึดโยงร้อยรัดความเป็นครอบครัวและชุมชนให้ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ แบ่งทุกข์แบ่งสุขซึ่งกันและกัน ผ่านกระบวนการของชุมชน แต่เกษตรกรยังขาดปัจจัยผลิตสินค้าทางการเกษตร ขาดงบประมาณการช่วยเหลือจากภาครัฐ
เครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นระดับประเทศไทย จึงนำเสนอโครงการแก้ไขปัญหาความยากจนของเกษตรกร หรือ กปจ.กษ. พร้อมกับขอความช่วยเหลือต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถือได้ว่าเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่รับความเดือดร้อนในช่วงภาวะวิกฤตไวรัส covid-19 ระบาด และทางรัฐบาลเองก็พร้อมให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ตามนโยบาย “รวมไทยสร้างชาติ”