ผู้จัดการออนไลน์ -“อานนท์” เดินหน้าหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นไทย ขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จาก “ร.๙ ถึง ร.๑๐ สู่ผองไทยทั่วแหล่งหล้า สืบสาน รักษา ต่อยอด สร้างสุขปวงประชา” ขานรัฐนโยบายลุงตู่ พัฒนาเศรษฐกิจชุมชนให้ยั่งยืน
วันนี้ (13 ก.ค.) ณ ห้องประชุมชั้น 2 ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดโอกาสให้ นายอานนท์ แสนน่าน ประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น เรารักประเทศไทย นายองอาจ วิเศษ ประธานเครือข่ายภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ภาคอีสาน นายศักดิ์ชาย พรหมโท ประธานผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.)
นางธนภัทร พันธวาส ประธานเครือข่ายกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแห่งประเทศไทย นายสมชัย แสงทอง รองประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นไทยภาคเหนือ นางนิตยา นาโล รองประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นไทยภาคอีสาน และคณะกรรมการเครือข่ายฯ ร่วมประชุมปรึกษาเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร ภายใต้ “เครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย” ขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จาก “ร.๙ ถึง ร.๑๐ สู่ผองไทยทั่วแหล่งหล้า สืบสาน รักษา ต่อยอด สร้างสุขปวงประชา”
นายอานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย เปิดเผยว่า วันนี้ได้นำคณะเครือข่ายฯ และคณะทำงานเพื่อขอรับนโยบายการทำงานจาก นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จาก “ร.๙ ถึง ร.๑๐ สู่ผองไทยทั่วแหล่งหล้า สืบสาน รักษา ต่อยอด สร้างสุขปวงประชา” ต้องการส่งเสริมความรู้มีส่วนร่วมของประชาชน ส่งเสริมและพัฒนา เศรษฐกิจฐานรากให้มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ
สนับสนุนให้มีการจัดทำและใช้ประโยชน์จากข้อมูลสารสนเทศ จัดทำยุทธศาสตร์ชุมชน ตลอดจนฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งกำหนดหน้าที่ พัฒนาระบบและกลไกส่งเสริมการเรียนรู้ การจัดการความรู้ การอาชีพ การออมและบริหารจัดการเงินทุนของชุมชนเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถชุมชน ผู้นำชุมชน องค์การชุมชนและเครือข่ายองค์การชุมชน บริหารจัดการให้ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ กระบวนการพัฒนาชุมชนสอดคล้องต่อหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัติงานตามหลักความพอประมาณ มีเหตุผล สร้างภูมิคุ้มกันที่ดี ใช้ความรู้ ความชอบธรรมและคุณธรรม ทำให้ชุมชนพึ่งตนเองบนความพอเพียง โดยบูรณาการทำงานร่วมกันในทุกกรมและรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะกรมการปกครอง และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น
ทางกลุ่มได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาขยายผลทำงานเป็น 3 ระดับ คือ ระดับ “พออยู่” เป็นต้นแบบใช้ชีวิตพึ่งตนเอง เน้นปฏิบัติทำกิน ทำใช้ในครัวเรือน เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้และมีการออม ระดับ “อยู่ดี กินดี” เป็นต้นแบบบริหารจัดการพัฒนาในรูปกลุ่ม พัฒนารายได้ด้วยระบบกลุ่ม เพื่อเพิ่มรายได้และขยายโอกาสคนในชุมชน
และสุดท้ายระดับ “มั่งมี ศรีสุข” เป็นต้นแบบบริหารการพัฒนาในรูปแบบองค์กรเครือข่าย เพื่อใช้ศักยภาพดำเนินการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน เพื่อขยายโอกาสประกอบอาชีพและส่งเสริมจัดสวัสดิการแก่คนในหมู่บ้านชุมชน โดยนำร่อง "ภาคเหนือ" และ "ภาคอีสาน" รวม 37 จังหวัด ก่อนจะขยับขยายต่อไปตามภาคต่างๆ
