พิจิตร - ผู้บริหารเหมืองทองอัครา หรือเหมืองทองพิจิตรนำแพทย์ จนท.ห้องแล็บสุ่มตรวจสุขภาพคนรอบบ่อทองรัศมี 5 กม. ชงกรมอุตฯ ชี้ชะตาเปิดใหม่อีกรอบหรือไม่ในปีนี้ ชาวบ้านเชื่อน่าจะมีข่าวดี
เหมืองทองอัครา ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ได้นำทีมแพทย์ และเจ้าหน้าที่ห้องแล็บเอกชนภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์จาก รพ.พุทธชินราช ออกตรวจสุขภาพชาวบ้านรอบเหมืองทองอัคราในรัศมี 5 กม. ซึ่งประกอบด้วยชาวบ้านจากในเขต ต.วังโพรง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ในช่วงปลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้
โดยตั้งโต๊ะตรวจชาวบ้านจาก ต.ท้ายดง อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ที่วัดวังขวัญ ส่วนชาวบ้านจาก ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ก็ใช้สถานที่วัดหนองขนากเป็นสถานที่ตรวจสุขภาพชาวบ้านทุกเพศ ทุกวัย ที่สุ่มตัวอย่างมารวม 400 คน
ตามข้อเสนอแผนงานการจัดทำข้อมูลพื้นฐานด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน สำหรับการทำเหมืองแร่ทองคำและการประกอบโลหกรรมแร่ทองคำของบริษัทอัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ที่ได้จัดทำร่วมกับบริษัท เอ บี อี เอ็น เอ็นจิเนียริง คอนซัลเตนท์ จำกัด เพื่อให้ทางกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่พิจารณา
ซึ่งตลอดห้วงการดำเนินการตรวจสุขภาพชาวบ้าน นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการฝ่ายประสานงานภายนอก บริษัทอัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนฝ่ายเหมืองทองอัครา รวมทั้งนายภูดิท อินสุวรรณ์ ส.ส.พปชร.พิจิตร เขต 2 ตลอดจนผู้บริหารท้องถิ่น เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. ฝ่ายปกครอง เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย
ขณะที่ชาวบ้านรอบเหมืองทองอัคราที่เข้ารับการตรวจสุขภาพ ต่างบอกว่าน่าจะเป็นนัยสำคัญหรือข่าวดีที่เหมืองทองอัคราอาจจะได้กลับมาเปิดกิจการอีกครั้ง ซึ่งเป็นการดีที่จะทำให้เกิดการจ้างงานคนในชุมชนอีกครั้ง
ทั้งนี้ “เหมืองทองอัคราฯ” ได้ยื่นต่ออนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศเพื่อขอความเป็นธรรม หลังรัฐบาลยุค คสช.ใช้ ม.44 สั่งปิดการดำเนินกิจการมาตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2559 ทำให้มีพนักงานที่เป็นชาวบ้านและคนในท้องถิ่นนับพันคนต้องตกงานทันที ซึ่งผู้บริหารของเหมืองทองอัคราหลีกเลี่ยงที่จะให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ พูดแค่เพียงสั้นๆ ว่า “น่าจะรู้ผลก่อนสิ้นปี 2563 นี้”