กรุงเทพฯ/เพชรบูรณ์ - ไม่ตีตกเรื่องนี้ต้องหอบเหตุผลสู้กันชั้นศาล..“ศรีสุวรรณ” ดักคอ คปป.ระดับจังหวัดฯ-ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ ชงเรื่องอนุญาต “อัครารีซอร์สเซส” ทำเหมืองทองเขตป่า ชี้ผลงานทำเหมืองทองพิจิตรเป็นบวกเป็นลบเห็นกันชัด
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดเพชรบูรณ์จะจัดให้มีการประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าระดับจังหวัด ครั้งที่ 1/2563 ผ่านระบบ Application ZOOM ในวันที่ 7 พ.ค. 63 นี้ โดยมีระเบียบวาระการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องการขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 5 ราย
หนึ่งในนั้น มีวาระการพิจารณาของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ที่ขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตป่า ตามมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 เพื่อทำเหมืองแร่ทองคำภายในเขตป่ามาตรา 4(1) แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ในท้องที่หมู่ที่ 8 ตำบลท้ายดง อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 4 แปลง คือ (1) เนื้อที่ 49 ไร่ 1 งาน 19 ตารางวา (2) เนื้อที่ 93 ไร่ 1 งาน 77 ตารางวา (3) เนื้อที่ 9 ไร่ 2 งาน 02 ตารางวา (4) เนื้อที่ 19 ไร่ 2 งาน 47 ตารางวา อยู่ด้วย
ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าวเคยมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ชัดอยู่แล้วว่าเคยทำกิจการเหมืองทองคำที่พิจิตรนั้นมีผลบวกหรือลบเป็นเช่นไร หากมีการอนุญาตให้บริษัทดังกล่าวได้สิทธิเข้าแผ้วถาง เผาป่า ก่อสร้าง หรือกระทำการด้วยประการใดๆ ในพื้นที่ป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าตาม ม. 4(1) เพื่อตนเองหรือผู้อื่น
และกิจกรรมทำเหมืองแร่ทองคำในพื้นที่ป่าไม้ดังกล่าว ก็อาจจะเป็นการใช้อำนาจที่ขัดต่อแนวนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ที่กำหนดเป้าหมายไว้ชัดเจนว่าให้มีพื้นที่ป่าไม้ทั่วประเทศอย่างน้อยในอัตราร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศเพื่อประโยชน์ 2 ประการ คือ
1) ป่าเพื่อการอนุรักษ์ กำหนดไว้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ดิน น้ำ พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ที่หายาก และป้องกันภัยธรรมชาติอันเกิดจากน้ำท่วมและการพังทลายของดิน ตลอดทั้งเพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัย และนันทนาการของประชาชนในอัตราร้อยละ 25 ของพื้นที่ประเทศ 2) ป่าเพื่อเศรษฐกิจ กำหนดไว้เพื่อการผลิตไม้และของป่าเพื่อประโยชน์ในทางเศรษฐกิจในอัตราร้อยละ 15 ของพื้นที่ประเทศ และกำหนดพื้นที่ที่มี ความลาดชันโดยเฉลี่ย 35% ขึ้นไป ไว้เป็นพื้นที่ป่าไม้โดยไม่อนุญาตให้มีการรับรองการทำประโยชน์ใดๆ
นอกจากนั้น ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์และรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังกำหนดเป้าหมายไว้ชัดเจนว่า จะต้องหยุดยั้งและป้องกันการทำลายทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าของชาติอย่างยั่งยืน รวมทั้งการลดปัญหาโลกร้อนด้วย
ดังนั้น การที่คณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าระดับจังหวัด (คปป.จังหวัด) ซึ่งมีผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์เป็นประธานฯ พยายามที่จะชงเรื่องดังกล่าวเพื่อมีมติเห็นชอบให้บริษัทฯ ได้สิทธิในการครอบครองพื้นที่ป่าเพื่อทำเหมืองทองคำในพื้นที่ดังกล่าวได้นั้น จึงน่าจะขัดต่อนโยบายและกฎหมายหลายฉบับ รวมทั้งขัดต่อแผนยุทธศาสตร์ชาติด้วย
“ถ้าคณะอนุกรรมการฯ ไม่ตีตกเรื่องนี้ ก็ต้องไปสู้กันในชั้นศาลทุกคนด้วย” นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด