ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ภาคพลเมืองชาวขอนแก่นต่อต้านคอร์รัปชัน บุกโรงพักแจ้งความกล่าวโทษนายอานนท์ นำภา พร้อมพวกดูหมิ่นใส่ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ บนเวที “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” ทำผิดทั้ง ม.112 และ 116 ชัดเจน จี้ถอนประกันให้เร็วที่สุดและสอบเส้นทางการเงินใช้จัดเวทีว่ากลุ่มไหนใครบ้างหนุนอยู่เบื้องหลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.20 น.วันนี้ (13 ส.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ตัวแทนองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น นำโดยนายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ นายอภิชัย เพชรสม ได้เข้าพบ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษนายอานนท์ นำภา กับพวก กระทำผิดกฎหมายอย่างร้ายแรงหลายข้อหา บนเวทีปราศรัยทางการเมือง ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา
นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ในฐานะประชาชนชาวไทยพวกตนยอมไม่ได้ที่จะให้บุคคลบางกลุ่มเปิดเวทีปราศรัยละเมิดกฎหมาย จาบจ้วงหมิ่นสถาบันเบื้องสูงอย่างท้าทายอำนาจรัฐ โดยบนเวทีปราศรัยของนายอานนท์กับพวกเมื่อเวลา 18.00 น.เป็นต้นไปของวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในชื่อ “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” กระทำผิดชัดเจนว่าจงใจดูหมิ่น ใส่ร้าย เหยียดหยามสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นองค์พระประมุขของชาติ
“การพูดบนเวทีของนายอานนท์ และแกนนำผู้ชุมนุมหลายคน พูดจาปลุกระดม ยุยง ปลุกปั่นให้มีการละเมิดกฎหมายของรัฐอย่างร้ายแรง ทำผิดกฎหมายหลายกรรมหลายวาระอย่างชัดเจน ประชาชนที่รักชาติรักแผ่นดินเทิดทูนสถาบันฯ ทนไม่ได้ที่จะเห็นกลุ่มคนพวกนี้เหิมเกริมทำตัวเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ” นายตุลย์กล่าวและว่า
ดังนั้น ในวันนี้พวกตนจึงต้องการมาแจ้งความกล่าวโทษให้ดำเนินคดีต่อนายอานนท์ พร้อมพวกอีกหลายคนที่เกี่ยวข้องกับการจัดเวทีดังกล่าว โดยต้องการให้พนักงานสอบสวนเร่งดำเนินการ 4 ประเด็น คือ 1. ให้ยื่นหนังสือต่อศาลอาญาเพื่อถอนประกันนายอานนท์ นำภากับพวก เพราะทำผิดเงื่อนไขการให้ประกันตัว ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายแผ่นดินกระทำผิดซ้ำซาก นอกจากเวทีที่ธรรมศาสตร์แล้วยังได้ไปขึ้นเวทีโจมตีล้มล้างสถาบันฯ ที่ จ.เชียงใหม่ด้วย
2. ให้ดำเนินคดีอาญา ตามมาตรา 112 และ มาตรา 116 ปอ.เพื่อให้ตัวการและผู้สนับสนุนได้รับโทษสูงสุด เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าบนเวทีปราศรัยนั้น นายอานนท์กับพวกได้พูดจาหมิ่นจวบจ้วงสถาบันเบื้องสูงที่ประชาชนชาวไทยเคารพเทิดทูน ทำผิดมาตรา 112 พฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ถือเป็นภัยความมั่นคงของชาติ ผิดมาตรา 116
3. ขอให้พนักงานสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานด้านการเงินและทรัพย์สินของตัวการและผู้สนับสนุน เพื่อให้ ปปง.เข้าไปยึดทรัพย์ที่ได้มาโดยไม่สุจริตหรือมีต่างชาติให้มา รวมถึงการออกแถลงการณ์สนับสนุนการชุมนุมด้วย สอบสวนหาที่มีของเส้นทางการเงินที่นำมาเป็นค่าใช้จ่ายจะเวทีนั้นมาจากใคร หรือกลุ่มบุคคลใด การจัดชุมนุมใช้เงินจำนวนไม่น้อย เพราะเชื่อว่าลำพังนักศึกษาซึ่งยังเรียนหนังสือ ยังร้องขอเงินจากพ่อแม่ ไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง ไม่มีทางที่จะเงินมากพอมาจัดเวที เช่าเครื่องเสียง ถ่ายทอดสดแน่นอน
4. ขอให้พนักงานสอบสวนยื่นคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทุกรายที่กระทำผิดฐานดูหมิ่น ใส่ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์และความมั่นคงของรัฐ เพราะมีอัตราโทษสูงและผู้กระผิดไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ถือเป็นภัยความมั่นคงของรัฐอันร้ายแรงอีกด้วย คนพวกนี้รู้ว่ามีความผิดแต่ก็จงใจท้าทายกฎหมาย
“พฤติกรรมของคนพวกนี้มีความผิดร้ายแรง พวกผมในฐานะพลเมืองไทย เป็นพสกนิกรของพระเจ้าอยู่หัว ไม่สามารถอยู่นิ่งเฉยดูดาย ปล่อยให้ผ่านเลยไปได้ จำเป็นต้องแสดงตัวเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับคนกลุ่มนี้ทั้งที่ขึ้นเวทีและพวกที่คอยหนุนอยู่เบื้องหลังให้ถึงที่สุด” นายตุลย์กล่าว และแสดงความเห็นว่า สำหรับการจัดชุมนุมปลดแอกของกลุ่มนักเรียนนักศึกษาตามพื้นที่ต่างจังหวัดนั้นก็เช่นกัน เป็นที่ทราบกันดีว่ามีเครือข่ายของกลุ่มบุคคลใดอยู่เบื้องหลังคอยยุยงปลุกปั่นเยาวชนให้ออกมาชุมชน อ้างว่าไล่รัฐบาลเรียกร้องแก้รัฐธรรมนูญ แต่เป้าหมายใหญ่เพื่อต้องการบั่นทอนความศรัทธาและล้มล้างสถาบันฯ ยัดเยียดข้อมูลผิดๆ ให้เยาวชน เยาวชนไม่ได้โง่ก็จริง แต่ก็ตามเล่ห์ของคนพวกนี้ไม่ทันมากกว่า
ทางด้าน พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น กล่าวภายหลังรับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้ร้องแล้วบอกว่าหลังจากนี้จะดำเนินการสอบปากคำ รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอน
