ศูนย์ข่าวศรีราชา - เปิดใจ "ซ้อร้านทองเมืองศรีราชา" อุทิศตนเป็นจิตอาสาแต่งหน้าศพ เผยอยากทำมานานแต่ยังหาช่องว่างไม่ได้อาศัยช่วงโควิด-19 เศรษฐกิจซบเสนอตัวร่วมมูลนิธิอัศวินบูรพาภาคตะวันออก ได้ทำบุญใหญ่หลังตระเวนช่วยหมดแล้วทั้งคนตกยาก และสัตว์ต่างๆ
ผู้คนในโลกออนไลน์ กำลังพูดถึง สองแม่ลูก ที่อุทิศตนเป็นจิตอาสาแต่งหน้าศพให้แก่มูลนิธิอัศวินบูรพาภาคตะวันออก
สองแม่ลูก ที่น่าชื่นชม คือ น.ส.อรวรรณ ปานอร่าม วัย 43 ปี เจ้าของร้านทองครูจำเนียร 3 ซึ่งตั้งอยู่บนถนนเครือสหพัฒน์ ต.หนองขาม จ.ชลบุรี และ น.ส.ปิยธิดา โตสวัสดิ์ วัย 22 ปี บุตรสาว ซึ่งปัจจุบันเป็นนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และการท่องเที่ยว สาขาธุรกิจการบิน มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง
น.ส.อรวรรณ ปานอร่าม เจ้าของร้านทองครูจำเนียร 3 เครือสหพัฒน์ บอกว่า ตนเองอยากทำงานด้านนี้มานานแล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมายังไม่รู้ว่าจะต้องไปเข้าร่วมกับทีมงานไหน อย่างไร ที่สำคัญตนเองไม่กลัวเรื่องการดูศพเพราะที่ผ่านมา มักเข้าร่วมกิจกรรมล้างป่าช้าของมูลนิธิต่างๆ และเข้าช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้อยาก และสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ หรือแม้แต่บุคคลทำร้ายมาโดยตลอด
โดยช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ถือเป็นโอกาสทองของชีวิต ซึ่งตนเองได้ติดต่อไปยังศูนย์อาสาอัศวินบูรพาภาคตะวันออก เพื่อขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความลำบากจากการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว และยังได้เสนอตัวทำงานแต่งหน้าศพเพื่อสร้างความรู้สึกดีๆ ให้แก่ญาติผู้เสียชีวิต
“พอเข้าไปทำงานได้สักพักทำให้ได้รู้ถึงความรู้สึกของญาติคนตายเลยว่า เขารู้สึกดีมากที่มีคนมาช่วย และส่วนตัวเราเองก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจคนตายเพราะไม่ต่างอะไรจากคนนอนหลับ ในทางกลับกัน กลับรู้สึกว่าอิ่มบุญทุกครั้งที่ได้ทำ ซึ่งในครั้งแรกได้พี่ๆ จากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เข้ามาสอนเทคนิคการแต่งหน้าศพ โดยเฉพาะศพที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุว่าจะต้องปกปิดบาดแผลอย่างไร ซึ่งหลังแต่งหน้าเสร็จก็ไปล้างมือกลับมากินข้าวได้ตามปกติ” เจ้าของร้านทอง กล่าว
เช่นเดียวกับ น.ส.ปิยธิดา โตสวัสดิ์ บอกว่าแม่ถือเป็นแบบอย่างที่ดีทั้งเรื่องการบริหารธุรกิจ และการทำงานจิตอาสา โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมา ตนเองได้ซึมซับความเป็นจิตอาสาจากผู้เป็นแม่ในเรื่องของการช่วยเหลือผู้ตกยากมาโดยตลอด และเมื่อแม่เข้ามาทำงานแต่งหน้าศพตนเองเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าสนับสนุนจึงอาศัยช่วงเวลาที่ว่างจากการเรียนเข้ามาช่วยทำงาน
“ครั้งแรกที่เห็นศพไม่รู้สึกกลัวอะไรแค่รู้สึกว่าเขาก็เป็นคนเหมือนเรา เพียงแต่เขาหมดอายุขัยเท่านั้น และสิ่งที่ได้รับจากการทำงานตรงจุดนี้คือการทำบุญ เพราะครอบครัวไหนมีคนเสียชีวิตคนในครอบครัวก็ย่อมที่จะเสียใจอยู่แล้ว และในบางกรณีที่เป็นการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ญาติๆ ก็คงไม่อยากเห็นสภาพหน้าตาที่ไม่สดใส และยืนยันว่าจะทำจิตอาสาร่วมกับคุณแม่เช่นนี้ตลอดไป” น.ส.ปิยธิดา กล่าว
ด้าน นายปองพล บัวพาเจริญ ประธานมูลนิธิอัศวินบูรพาภาคตะวันออก ซึ่งทำหน้าที่แจ้งข่าว ประสานเหตุ ให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาล อำนวยการจราจร ช่วยเหลือชาวบ้านและประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องต่างๆ รวมทั้งการจับอสรพิษ และบริจาคโลงศพ เผยว่า นักธุรกิจสาวเจ้าของร้านทองเป็นผู้ที่มีจิตใจดี ซึ่งหลังจากที่มูลนิธิฯ จัดตั้งมานานถึง 6 ปี ก็มีความตั้งใจว่าจะเพิ่มบริการแต่งหน้าศพให้แก่ผู้เสียชิวตแต่ก็ยังขาดบุคลากร
กระทั่งช่วงโควิด-19 เจ้าของร้านทองใจบุญรายนี้ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อขอสนับสนุนอุปกรณ์ในการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค และขอเข้ามาเป็นส่วนร่วมในการเป็นจิตอาสาแต่งหน้าศพ ซึ่งเรายินดีเพราะต้องการบุคลากรในส่วนนี้อยู่แล้ว
“วันแรกที่พี่เขาเข้ามาก็แสดงความจำนงเลยว่าจะเข้ามาช่วยเหลือ และคำพูดแรกที่พี่เขาบอกว่าจะมาเป็นจิตอาสาแต่งหน้าศพ ซึ่งในครั้งแรกผมไม่เชื่อเลยเพราะว่าตัวพี่เขาเป็นถึงเจ้าของร้านทอง เป็นคนมีเงินที่ไม่น่าจะมาทำงานแบบนี้ได้ แต่เมื่อเห็นเขาทำได้จริงๆ ก็รู้สึกดีใจที่ว่าอย่างน้อยในบ้านเมืองเรากยังมีคนที่มีฐานะดีเข้ามาร่วมเป็นจิตอาสาทำบุญกับเรา ซึ่งมันถือว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก” ประธานมูลนิธิอัศวินบูรพาภาคตะวันออก กล่าว