ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “หมอชาญชัย” ผอ.รพ.ขอนแก่น ส่งทนายยื่นศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 4 ฟ้องเอาผิด ม.157 ต่อปลัดกระทรวงฯ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย พร้อมพวกอีก 6 คน ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทำให้ นพ.ชาญชัย เสียหายถูกกล่าวหาทำผิดวินัยร้ายแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สายวันนี้ (6 ส.ค.) ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 4 จ.ขอนแก่น นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ได้มอบหมายให้ นายยันต์ ลีละสุวัฒนากุล ยื่นฟ้อง นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมพวกรวม 7 คน ฐานกระทำผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่นายแพทย์ ชาญชัย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
นายยันต์ ลีละสุวัฒนากุล ทนายความ เปิดเผยถึงสาเหตุที่ นพ.ชาญชัยมอบหมายให้ตนดำเนินการยื่นฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตฯ แทนสืบเนื่องจากข้อพิพาทที่เป็นข่าวทางทีวี สื่อสารออนไลน์ กรณี นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ถูกร้องเรียนโดยมีบัตรสนเท่ห์กล่าวหาว่า นพ.ชาญชัย เรียกรับเงินจากบริษัทยาและร้านค้า ทั้งที่สำนักงาน ป.ป.ช และกระทรวงสาธารณสุขสั่งให้ยกเลิกการรับเงินไปแล้ว
ต่อมา นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้มีคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขที่ 1161/2562 ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2562 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง (5 คน)
ผลการสอบเบื้องต้นอ้างว่ามีมูลที่ควรกล่าวหา นพ.ชาญชัย เรียกรับเงินจากบริษัทยาและร้านค้า ต่อมา นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงขึ้นเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 ตามที่มีการร้องเรียน
ภายหลังมีข่าวการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างแรง นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ปรากฏว่ามีองค์กรแพทย์และบุคลากรโรงพยาบาลขอนแก่นยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ต่อมา นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้มีคำสั่งที่ 624/2563 ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2563 ย้าย นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่กองบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
โดยอ้างในคำสั่งว่า การตรวจสอบเบื้องต้นมีมูลที่ควรกล่าวหา และศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต กระทรวงสาธารณสุขเห็นว่ามีพฤติกรรมการข่มขู่จูงใจให้เกิดพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ จึงเห็นควรย้าย นพ.ชาญชัยออกจากโรงพยาบาลขอนแก่นเพื่อให้การสอบสวนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่เป็นอุปสรรค
นพ.ชาญชัยเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยเห็นว่าการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงตามคำสั่งที่ 1161/262 ไม่เป็นไปตามกฎ ก.พ.ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย และหนังสือสำนักนายกรัฐมนตรี และหนังสือสำนักงาน ก.พ.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวกับการร้องเรียนกล่าวโทษข้าราชการและสอบสวนเรื่องราวกล่าวโทษข้าราชการทำผิดวินัยที่ระบุว่า
หากกรณีเป็นบัตรสนเท่ห์ ให้พิจารณาเฉพาะรายที่ระบุหลักฐาน กรณีแวดล้อมปรากฏชัดแจ้ง ตลอดจนชี้พยานบุคคลแน่นอนเท่านั้น.....ซึ่งตามข้อความตามบัตรสนเท่ห์ พยานหลักฐานแวดล้อมไม่ปรากฏชัดและไม่ชี้พยานบุคคลที่แน่นอน และ นพ.ชาญชัยไม่ได้สั่งให้เรียกรับเงินจากบริษัทยาและร้านค้า และไม่ได้กระทำการใดๆ อันเป็นการข่มขู่จูงใจให้เกิดพยานหลักฐานอันเป็นเท็จตามที่ถูกกล่าวอ้าง
นายยันต์กล่าวว่า ด้วยข้อเท็จจริงทั้งหมดข้างต้น วันนี้ นพ.ชาญชัยจึงได้มอบหมายให้ตนมาดำเนินการยื่นฟ้องคดีต่อ นพ.สุขุม กับพวกรวม 7 คน ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ นพ.ชาญชัย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เพื่อพิสูจน์ความจริงและขอความเป็นธรรมตามสิทธิตามกระบวนการยุติธรรม