xs
xsm
sm
md
lg

“อัจฉริยะ” มาแล้วยืนมื่อเข้าช่วยเรื่องคดีพ่อแม่น้องไตเติ้ล ที่เสียชีวิตขณะคลอด

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชัยนาท - ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พาพ่อแม่น้องไตเติ้ล ร้อง สสจ.ชัยนาท เพื่อขอความเป็นธรรมและเอาผิด ผอ.รพ.ชัยนาท เหตุสลับศพทารกไปเผาผิดตัว 

วันนี้ (4 ส.ค.) ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยนาท นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้นำ น.ส.กฤษณา ขวัญศรี อายุ 23 ปี และนายอณวัฒต์ เปี่ยมศิริ อายุ 27 ปี แม่และพ่อของน้องไตเติ้ล ที่เสียชีวิตระหว่างการทำคลอด ในโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร เมื่อวันที่ 27 ก.ค.63 และถูกสลับศพไปเผาผิด ในวันที่ 1 ส.ค.63 โดยได้เข้าพบ นายแพทย์พัลลภ ยอดศิรจินดา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท

เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรม และให้มีการตรวจสอบการให้บริการของโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร กรณีทำคลอดบุตรเสียชีวิต และสลับศพทารกผิดคน โดยมีญาติๆ และชาวบ้าน จำนวนกว่า 40 คน เดินทางไปร่วมรับฟัง และให้กำลังใจ น.ส.กฤษณา และสามี รวมทั้งยังมีพ่อและแม่ของเด็กหญิงอีกรายที่เสียชีวิต แล้วได้รับศพผิดไปเผา ก็ได้เข้าร่วมพูดคุยด้วย

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า การที่โรงพยาบาลออกมาแถลงข่าวขอโทษ ไม่สามารถลบความผิดได้ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของคน เด็กที่เสียชีวิตก็ยังพิสูจน์ไม่ได้เลยว่า เสียชีวิตเพราะเกิดจากการให้บริการของพยาบาลหรือแพทย์ แล้วยังมีการสลับศพไปเผาอีก ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ไร้คุณธรรมและไร้จรรยาบรรณมาก โหดร้ายกับครอบครัวของผู้เสียหายเป็นอย่างมาก จึงต้องการให้สาธารณสุขจังหวัดตั้งกรรมการตรวจสอบสวน

นอกจากนี้ จะไปแจ้งความต่อตำรวจให้ดำเนินคดีอาญาต่อผู้อำนวยการโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร กับพวก ตามมาตร 366/3 ฐานทำลายศพ ซึ่งมีโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 6 หมื่นบาท ไม่ว่าใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเอาศพไปเผา จะดำเนินคดีให้หมด

ด้านนายแพทย์พัลลภ ยอดศิรจินดา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า ในวันนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยนาท จะตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีเด็กเสียชีวิตจากการให้บริการ โดยจะให้แพทย์ที่เป็นหัวหน้าแผนกสูติกรรม โรงพยาบาลอุทัยธานี ซึ่งเป็นแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงมาเป็นหัวหน้าชุดตรวจสอบ ส่วนกรณีการสลับศพทารก จะรอรายงานผลสอบข้อเท็จจริงจากโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทรก่อน และจะต้องดูลึกลงไปในรายละเอียด

เนื่องจากดูแล้วในกระบวนการทำงานมีปัญหาชัดเจน หากพบว่ามีความผิดจริง ก็จะเสนอเรื่องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนทั้งหมดต่อไป ส่วนเรื่องการเยียวยาชดใช้ค่าเสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข ตามมาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จะมีการประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ในวันที่ 11 ส.ค.63 นี้

ด้านพ่ออีกรายที่รับศพลูกไปผิดตัว กล่าวว่า รู้สึกเสียใจและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยตนไม่ทราบว่าศพลูกสลับตัว ซึ่งหลังจากที่ลูกเสียชีวิตจากการคลอดก่อนกำหนด ก็ได้แจ้งความประสงค์ให้ทางโรงพยาบาลช่วยดำเนินการติดต่อวัดให้ เพื่อที่ตนจะได้นำศพลูกไปทำพิธีฌาปนกิจ เพราะไม่อยากนำศพลูกกลับบ้าน ซึ่งในวันนั้นมีพยาบาล 2 คนเดินทางไปที่วัดพร้อมกับตน และไปเจอพยาบาลอีก 4 คน รออยู่ที่วัดแล้ว ส่วนที่มีตนไปเผาศพลูกคนเดียว ไม่มีญาติคนอื่น เนื่องจากตนอยู่กับภรรยาและลูกอีก 1 คนเพียงลำพังเท่านั้น

จากนั้นเวลา 11.00 น. นายอัจฉริยะ ได้พา น.ส.กฤษณา และนายอณวัฒต์ เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองชัยนาท เข้าพบ พ.ต.ท. พงษ์ศิริ โพธิ์งาม รองผู้กำกับการสอบสวน หัวหน้างานสอบสวน สภ.เมืองชัยนาท เพื่อให้ดำเนินคดีต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง กรณีคลอดลูกเสียชีวิต และสลับศพทารก ซึ่งทางตำรวจได้รับไว้เป็นคดี และได้นัดหมายให้ น.ส.กฤษณา มาให้ปากคำเพิ่มเติม

พ.ต.ท. พงษ์ศิริ โพธิ์งาม รองผู้กำกับการสอบสวน กล่าวว่า ในส่วนของการเสียชีวิตระหว่างทำคลอด ต้องรอผลชันสูตรศพจากทางโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ก่อน ว่าการเสียชีวิตเกิดจากสาเหตุใด และต้องสอบปากคำ น.ส.กฤษณา เพิ่มเติม ส่วนการเคลื่อนย้ายศพ ต้องไปดูว่าเข้าความผิดตามกฎหมายหรือไม่ และต้องไปดูว่ามีใครเกี่ยวข้องตรงไหนบ้าง จากนั้นจะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำต่อไป โดยยังไม่สามารถตั้งข้อหา หรือชี้ชัดความผิดกับบุคคลใดได้ในขณะนี้

จากนั้น นายอัจฉริยะ ได้พา น.ส.กฤษณา ขวัญศรี และนายอณวัฒต์ เดินทางไปที่โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร เข้าพบ พญ.ณัฐภร ประกอบ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร และคณะผู้บริหารโรงพยาบาล เพื่อให้ชี้แจงถึงเหตุการณ์สลับศพทารกผิดตัว โดยมีเพื่อนและญาติของผู้เสียหาย จำนวน 20 คน เข้าไปร่วมรับฟังด้วย โดยทางโรงพยาบาล ยังคงชี้แจงข้อมูล เหมือนเช่นชี้แจงให้สื่อมวลชนทราบไปเมื่อวานนี้ (3 ส.ค.) ว่ากรณีสลับศพทารก อยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ ซึ่งจะทราบผลภายใน 1 สัปดาห์

ส่วนการเสียชีวิตของน้องไตเติ้ล อยู่ระหว่างรอผลชันสูตรศพจากโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลภายใน 2 สัปดาห์ และยังยืนยันว่า การที่มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ไปร่วมงานฌาปนกิจศพทารกที่วัดศรีวิชัยวัฒนาราม เมื่อวันที่ 1 ส.ค.63 นั้น เป็นการไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ และเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่พ่อเด็ก เคสที่ดูแลอยู่ ไม่มีเจตนาที่จะให้มีการสลับศพ หรือเป็นการทำลายหลักฐานแต่ประการใด

ทั้งนี้ การพูดคุยยาวนานกว่า 1 ชั่วโมง ก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสร็จสิ้นการพูดคุย พญ.ณัฐภร ประกอบ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร ได้เดินเข้าไปจับมือ น.ส.กฤษณา แล้วกล่าวคำขอโทษ












กำลังโหลดความคิดเห็น