เชียงใหม่ - หนุ่มเจ้าของร้านกุ้งเผาเชียงใหม่โผล่แจงเป็นคนที่เอาข้าวของส่วนตัว “จารุชาติ” ไปส่งให้ญาติวันรับศพด้วยความหวังดี พร้อมรับเป็นคนพาไปฝาก “ส.ว.ก๊อง” ให้ช่วยหางานทำ หลังรู้จักผู้ตาย ธ.ค. 62 ระหว่างขับรถบรรทุกส่งของ
ความคืบหน้ากรณี นายจารุชาติ มาดทอง อายุ 40 ปี ซึ่งถูกระบุว่าเป็นพยานคนสำคัญในคดี "บอส กระทิงแดงเรดบูล" เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์ของคู่กรณีเมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. วันที่ 30 ก.ค. 63 ที่บริเวณแยกฟ้าธานี ถนนห้วยแก้ว ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งสังคมตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับเหตุที่เกิดขึ้นว่าเป็นอุบัติเหตุจริงหรือไม่
โดยมีกระแสข่าวเชื่อมโยงนายจารุชาติ ไปยังนายชูชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ “ส.ว.ก๊อง” อดีตสมาชิกวุฒิสภา และประธานสโมสรฟุตบอลเชียงใหม่ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นว่าที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ที่รู้จักสนิทสนมกับเครือกระทิงแดง กระทั่ง ส.ว.ก๊องได้ออกมาแถลงข่าวชี้แจง พร้อมระบุว่าคนรู้จักเป็นคนพานายจารุชาติมาฝากให้ช่วยหางานทำ จึงได้จ้างทำงานดูแลสนามฟุตบอลของทีมเป็นครั้งคราว
เย็นวานนี้ (1 ส.ค. 63) นายวัลลภ ใจชื้น เจ้าของร้านกุ้งเผาแห่งหนึ่งในอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกมายอมรับว่าเป็นคนที่พานายจารุชาติไปแนะนำตัวและฝากให้นายชูชัยช่วยหางานให้ทำ โดยตนรู้จักกับนายจารุชาติเมื่อประมาณเดือน ธ.ค. 62 ระหว่างที่ขับรถบรรทุกไปซื้อกุ้งที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งพบกับที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งระหว่างทางนายจารุชาติรับจ้างขับรถบรรทุกปลาไปส่งของเช่นกัน
จากการพูดคุยและรู้ว่าอยู่เชียงใหม่เหมือนกัน กระทั่งกลับมาเชียงใหม่ได้พบกันอีกตอนตนไปซื้อของเข้าร้านที่ตลาดเมืองใหม่และนายจารุชาติไปรับจ้างขับรถส่งปลา จึงนัดหมายชักชวนกันไปดื่มกิน จากนั้นได้เริ่มคุ้นเคยกันมากขึ้นและมีการจ้างงานให้นายจารุชาติขับรถไปรับกุ้งที่สุพรรณบุรีแทนเป็นบางครั้งด้วย
ทั้งนี้ เห็นว่านายจารุชาติเป็นคนตั้งใจทำงานดีและอัธยาศัยดี อีกทั้งใช้งานง่าย แต่ทำงานมีรายได้ไม่พอใช้ จึงอยากช่วยเหลือและพาไปฝากขอให้นายชูชัย ช่วยหางานให้ทำ
ส่วนเรื่องที่นายจารุชาติเป็นพยานในคดี “บอส กระทิงแดงเรดบูล” นั้น ยอมรับว่านายจารุชาติเคยบอกว่าต้องไปเป็นพยานให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีดังกล่าวอีกแล้ว โดยเพิ่งบอกเมื่อเร็วๆ นี้หลังจากที่คดีนี้กลายเป็นข่าวโด่งดัง แต่ไม่เคยทราบรายละเอียดและไม่เคยถามต่อ
ขณะที่ข้าวของส่วนตัวที่สงสัยกันว่าชายลึกลับนำไปส่งให้ญาติตอนรับศพกลับเชียงรายนั้น ตนช่วยเป็นธุระเก็บข้าวของของนายจารุชาติที่พักอยู่ที่ร้านตนนำไปให้เอง ด้วยความหวังดีและข้าวของคนตายคงไม่มีใครอยากเก็บไว้ที่บ้าน
สำหรับการที่นายจารุชาติมีชื่อเป็นลูกจ้างในบริษัททนายความได้อย่างไรนั้นตนไม่ทราบ และส่วนตัวเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายจารุชาตินั้นเป็นอุบัติเหตุ เพราะเท่าที่เห็นภาพแล้วนายจารุชาติเป็นฝ่ายขี่ไปชนท้าย