xs
xsm
sm
md
lg

ผู้การเชียงใหม่สอบปากคำคู่กรณีพยานเอกคดี “บอส กระทิงแดง” เจ้าตัวยันโดนชนท้าย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - หนุ่มใหญ่คู่กรณีอุบัติเหตุรถ จยย.เฉี่ยวชนกันทำพยานปากเอกคดี "บอส กระทิงแดง" ดับ เข้าพบให้ปากคำ ยันโดนขี่มาชนท้าย ไม่เคยรู้จักกัน ครวญสุดซวยแค่ค่าหมอยังไม่มีจ่าย ขณะที่ผู้การเชียงใหม่ย้ำเร่งคลี่คลายคดีสร้างความชัดเจนสังคม


ความคืบหน้ากรณี นายจารุชาติ มาดทอง อายุ 40 ปี ซึ่งถูกระบุว่าเป็นพยานคนสำคัญในคดี "บอส กระทิงแดง" เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์ของคู่กรณีเมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. ที่บริเวณแยกฟ้าธานี ถนนห้วยแก้ว ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งสังคมตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับเหตุที่เกิดขึ้นว่าเป็นอุบัติเหตุจริงหรือไม่

ช่วงค่ำวันนี้ (30 ก.ค. 63) พลตำรวจตรี พิเชษฐ จีระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสอบปากคำนายสมชาย ตาวิโน อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นคู่กรณีในอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกัน จนเป็นเหตุให้นายจารุชาติเสียชีวิต


นายสมชาย ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นแผลที่บริเวณใบหน้า, แขน, ขา และลำตัว เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุขี่รถจักรยานยนต์มาตามปกติบนถนน โดยยอมรับว่าอยู่ในอาการมึนเมา จู่ๆ รถของคู่กรณีได้ขับขี่มาชนข้างหลัง ทำให้รถตัวเองพุ่งไปชนเกาะกลางถนนและล้มได้รับบาดเจ็บ ส่วนคู่กรณีล้มอยู่กลางถนน

นายสมชายยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับคู่กรณีมาก่อนและไม่เคยทราบด้วยว่าเป็นพยานสำคัญในคดีที่กำลังตกเป็นข่าวโด่งดัง อีกทั้งไม่รู้เรื่องการรับงานใดๆ ทั้งสิ้นเพราะตนเองเป็นเพียงลูกจ้างทำงานในโครงการหลวง และแค่จะหาเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลยังลำบาก เพราะหลังเกิดเหตุถูกนำตัวไปส่งโรงพยาบาลที่ตัวเองใช้สิทธิการรักษาไม่ได้


ขณะที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าเป็นอุบัติเหตุจราจรที่รถมีการเฉี่ยวชนกัน รถของนายสมชายพุุ่งไปเกาะกลางถนน และรถของนายจารุชาติล้มอยู่ริมทางเท้า ซึ่งรายละเอียดการชนจะตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดโดยรอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง

สำหรับนายจารุชาติ มาดทอง ผู้ตายนั้น พบว่ามีชื่อ นามสกุลตรงกับพยานปากเอกในคดีสำคัญ แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นคนคนเดียวกันหรือไม่อย่างไร เมื่อสอบถามพ่อแม่และภรรยาของนายจารุชาติบอกว่าไม่เคยรู้เรื่องการเป็นพยานในคดีสำคัญเลย ทราบแต่เพียงว่ามาทำงานอยู่ที่เชียงใหม่และไม่ได้กลับบ้านประมาณ 1 ปีแล้ว ซึ่งจะต้องทำการตรวจสอบข้อมูลทางทะเบียนราษฎรอย่างละเอียดอีกครั้ง


ส่วนประเด็นสงสัยเคลือบแคลงต่างๆ เกี่ยวกับคดีนี้ที่สังคมให้ความสนใจจับจ้องอย่างมากนั้น ยืนยันว่าจะสืบสวนอย่างรอบคอบและคลี่คลายคดีให้เกิดความกระจ่างชัดแก่สังคมให้หมดข้อสงสัยให้ได้โดยเร็ว โดยในส่วนของนายสมชายนั้นพบว่าเบื้องต้นจะต้องถูกดำเนินคดีด้วยข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุเฉี่ยวชนให้ทรัพย์สินเสียหายและมีผู้เสียชีวิต






กำลังโหลดความคิดเห็น