เชียงราย - “ศรีสุวรรณ จรรยา” ขอตำรวจเชียงใหม่อย่าด่วนสรุป..อุบัติเหตุ จยย.ชนกันทำพยานพลิกคดีบอส-ทายาทกระทิงแดงเรดบูล ดับกะทันหัน ชี้เมืองไทยทุกอย่างเป็นไปได้ ด้าน ผญบ.ยันรู้แค่ทำงานขับรถให้ “นาย” ก่อนจารุชาติเสียชีวิต
วันนี้ (31 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านชาววังชมภู หมู่ 15 ต.ม่วงคำ อ.พาน จ.เชียงราย ยังคงช่วยกันจัดงานศพให้กับนายจารุชาติ มาดทอง อายุ 40 ปี พยานปากเอกในคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส-ทายาทกระทิงแดงเรดบูล ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต หลังนายจารุชาติเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกันกลางเมืองเชียงใหม่ โดยล่าสุดญาติสามารถหารูปภาพของนายจารุชาติเพื่อนำมาไว้ประกอบพิธีได้แล้ว และกำหนดจะฌาปนกิจศพวันที่ 2 ส.ค.นี้ ณ ฌาปนสถานบ้านร่องบอน หมู่ 12 ต.ม่วงคำ
นายเกษม เชื้อเมืองพาน ผู้ใหญ่บ้านวังชมภู กล่าวว่า ต้องยอมรับว่ามีคนรู้เรื่องราวของนายจารุชาติน้อย เพราะได้ออกจากบ้านไปทำงานตั้งแต่ยังหนุ่มแน่น นานๆ ครั้งถึงจะกลับบ้าน ซึ่งปีนี้ตนก็ไม่เคยเจอหน้าเขาเลยกระทั่งมาทราบว่าเสียชีวิต แต่ก่อนจะเสียชีวิตนั้นทราบว่าเขาไปทำงานขับรถให้กับคนที่เขาเรียกกันว่า "นาย" คนหนึ่งที่เชียงใหม่ แต่ตนก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร และไม่ทราบว่าช่วงที่ไปกรุงเทพฯ ได้ไปทำงานขับรถให้ใครหรือไม่ เพียงแต่รู้ว่าเขาเป็นคนชอบขับรถ ก็อาจจะทำงานในลักษณะนั้นได้
วันเดียวกัน นายสมาน วังมูล อายุ 65 ปี บิดาบุญธรรมของนายจารุชาติ ได้นำเอกกสารที่มีเพียงสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของนายจารุชาติเดินทางไปแจ้งการเสียชีวิต ณ ที่ว่าการ อ.พาน พร้อมยืนยันว่าจำไม่ได้ชัดเจนว่านายจารุชาติไปทำงานที่กรุงเทพฯ หรือต่างประเทศปีไหนกันแน่เพราะผ่านมาหลายปี
แต่จำได้คร่าวๆ ว่าเคยไปทำงานที่กรุงเทพฯ และในปี 2553-2554 ไปทำงานไต้หวัน จากนั้นก็มาทำงานต่อที่กรุงเทพฯ ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าเขาจะไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ แต่ก็ไม่ได้ไปกระทั่งมาเสียชีวิตที่เชียงใหม่เสียก่อนดังกล่าว ส่วนเรื่องราวการทำงาน นายจ้างและการไปเป็นพยานในคดีใดๆ นั้นพวกตนไม่เคยทราบเรื่องมาก่อน
ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เผยแพร่จดหมายข่าวผ่านสื่อฯ ว่า กรณีนายจารุชาติ มาดทอง อายุ 40 ปี ชาว จ.เชียงราย หนึ่งในพยานปากสำคัญที่สร้างจุดเปลี่ยนคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ขับรถชน ด.ต.วิเชียร กล่ำประเสริฐ เสียชีวิต จนกระทั่งอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์เสียชีวิตที่เชียงใหม่ และจากการเปิดเผยของ ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ว่า ในการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นอุบัติเหตุ โดยผู้เสียชีวิตขับขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังมา จากนั้นได้แซงและเกี่ยวรถอีกคันและแฉลบไปชนด้านขวา ส่วนการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์พบว่ามีทั้งคู่นั้น
ข่าวการตายของพยานคดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ดังกล่าว หากตำรวจจะเร่งสรุปสำนวนคดีว่าไม่ใช่การฆ่าตัดตอนพยานก็อาจจะเป็นการเร่งสรุปคดีเร็วเกินไป เพราะยังมีข้อสงสัยหลายประการที่อาจไม่ใช่อุบัติเหตุก็ได้ กรณีนี้อาจจะเป็นแผนลึกลับซับซ้อนหลายชั้นหลายขั้นตอนแบบหนังสายลับฝรั่ง
จากคลิปของการเกิดเหตุที่สื่อมวลชนนำมาเผยแพร่นั้น ถามว่าเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องมีการตั้งข้อสงสัยประเด็นการลอบฆ่าหรือยัง มีการตรวจชันสูตรร่างกายภายใน หรือรถมอเตอร์ไซค์ทั้งสองฝ่ายอย่างละเอียดก่อนสรุปหรือยัง ต้องดูด้วยว่ากลไกรถมอเตอร์ไซค์ถูกปลดหรือเพิ่มอะไรเข้าไปหรือไม่ รวมถึงเรื่องอาจมีคนเลี้ยงข้าวยาปลาปิ้งและสุรา และแอบใส่ยาบางอย่างไว้
นายศรีสุวรรณย้ำว่าทุกอย่างอาจเป็นไปตามแผนที่วางไว้อย่างแนบเนียนจนตบตาคนในสังคมได้ทั้งหมดก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น ดังนั้น ตำรวจเจ้าของคดีไม่ควรรีบสรุปสำนวนว่าการเสียชีวิตของพยานนายวรยุทธในครั้งนี้เป็นเพียงแค่อุบัติเหตุธรรมดา เพราะประเทศไทยอะไรๆ ก็เป็นไปได้เสมอ
