รัฐสภา - กมธ.กีฬา สภาผู้แทนราษฎร ผลักดันและศึกษาแนวทางยกร่าง พ.ร.บ. “อีสปอร์ต” หลังถกร่วมสมาคมกีฬาผู้พิการไทย-สมาคมอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย-กกท. เห็นร่วมหนุนอีสปอร์ตเป็นอุตสาหกรรมการกีฬา สร้างรายได้เข้าประเทศ
วันนี้ (22 ก.ค.) ที่ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ (สผ.) 419 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา (เกียกกาย) ส.ส.ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา ประธานคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ประชุมคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 20 มีคณะกรรมาธิการกีฬา, ที่ปรึกษาฯ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ที่ประชุมครั้งนี้ได้พิจารณาศึกษาข้อมูลและแนวทางในการยกร่างพระราชบัญญัติการแข่งขันกีฬาอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Electronic Sport (E-Sport) ซึ่งนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ เลขานุการคณะกรรมาธิการ ได้เสนอ
มีบุคลากรที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย นายณัฐวุฒิ เรืองเวช รองผู้ว่าการ กกท.ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์, นายสันติ โหลทอง นายกสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย, นายไมตรี คงเรือง เลขาธิการและประชาสัมพันธ์ สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, นายไพฑูรย์ แซ่จิ้ว นายกสมาคมกีฬาอีสปอร์ตคนพิการไทย และนายจิรยศ เทพพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง สนามแข่งขันกีฬา Thailand E-Sport Arena (ผู้ประกอบธุรกิจ E-Sport)
การหารือครั้งนี้ต้องการยกร่าง พ.ร.บ.อีสปอร์ต เพื่อพัฒนาศักยภาพกีฬาอีสปอร์ตในทุกด้าน เพราะขณะนี้มีความพยายามที่จะทำให้เกิดความเข้าใจว่าอีสปอร์ตไปเกี่ยวข้องกับเกมพนันออนไลน์ ซึ่งกีฬาชนิดนี้อยู่ในความดูแลของการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งมองว่ากีฬาชนิดนี้เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทรงคุณค่า ถือเป็นอุตสาหกรรมการกีฬาขนาดใหญ่ที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ ทางการกีฬาฯ ได้แบ่งผู้เล่นกีฬาชนิดนี้เป็น 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มที่ต้องมีการพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมการกีฬา 2. กลุ่มเล่นเพื่อนันทนาการ 3. กลุ่มปัญหาเด็กติดเกม
เพื่อให้ประเทศไทยมีโอกาสส่งนักกีฬาในฐานะทีมชาติเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ ซึ่งในต่างประเทศมีการแข่งขันและพัฒนานักกีฬาอีสปอร์ตไปไกลมากแล้ว จึงมีการประกาศรับรองให้เป็นกีฬาไปเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ทำให้คำว่ากีฬาที่ขึ้นชื่อว่า อีสปอร์ต ต้องเป็นเกมกีฬาที่มีการจัดการแข่งขันอย่างมีระบบมาตรฐานเท่านั้น เมื่อมีการประกาศเป็นเกมกีฬา กกท.ได้มีการสนับสนุนงบประมาณให้กับกีฬาชนิดนี้ไปแล้ว พร้อมกับเสนอให้มีศูนย์การเรียนรู้เพื่อพุ่งเป้าผ่านกุศโลบายผ่านตัวเกมให้มีการพัฒนามากขึ้น แต่ติดปัญหาเกมกีฬาอีสปอร์ตยังไม่ถูกกฎหมาย คือไม่มี พ.ร.บ.รองรับ และยังติดปัญหาการยอมรับจากหน่วยงานต่างๆ ที่มองว่ากีฬาอีสปอร์ตจะไปกระทบต่อเยาวชน
นายณัฐวุฒิ เรืองเวช รองผู้ว่าการ กกท.ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ กล่าวว่า ในตัวกฎหมาย กกท.ได้รับเชิญไปเพียงครั้งเดียว และได้พูดคุยกับนายกสมาคมอีสปอร์ตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังไม่เห็นร่าง พ.ร.บ.อีสปอร์ตอย่างชัดเจน ซึ่งการยกร่าง พ.ร.บ.อีสปอร์ตจำเป็นที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้เกิดการกระทบสิทธิของประชาชนจากเกมกีฬาชนิดนี้
ขณะที่ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ เลขานุการคณะกรรมาธิการ กล่าวว่า สิ่งที่มีการพูดคุยเรื่องกระทบสิทธินั้นเข้าใจว่าเป็นปัญหาที่พุ่งเป้าไปที่เด็กติดเกม แต่การเล่นเกมจริงๆ แล้วเป็นปัญหาที่เกิดจากการเล่นเกมจริงหรือไม่ เพราะตนก็เล่นเกมมาตั้งแต่อายุ 12 ปี ถึงปัจจุบันก็ยังเล่นและที่ผ่านมาก็ไม่เคยเสียการเรียน อีกทั้งในด้านสุขภาพก็ไม่มีผลกระทบ หรือแม้แต่คำว่ากีฬา อาจจะมองเห็นเพียงว่าต้องมีเหงื่อหรือการเล่นกลางแจ้ง แต่หากถามย้อนกลับว่าในเกมกีฬาหมากล้อมหรือไพ่ ทำไมถึงจัดเป็นกีฬาได้ เพราะเข้ากรอบเรื่องนันทนาการนั่นเอง
“แต่สิ่งที่ต้องฝากเกี่ยวกับการดูแลร่วมกันและควรที่จะมีกฎหมายรองรับ เชื่อว่าในอนาคตกีฬาชนิดนี้จะมีการพัฒนามากขึ้นและจะมีผู้เล่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงขอให้สมาคมฯ ต้องดูแลสังคมร่วมกัน ในด้านการควบคุมคงต้องขึ้นอยู่กับผู้ปกครองดูแล เพราะไม่จำเป็นที่จะต้องออกกฎหมายอีสปอร์ตมาจำกัดสิทธิของใคร” นายสิริพงศ์กล่าว
ด้านนายไมตรี คงเรือง เลขาธิการและประชาชนสัมพันธ์ สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ในด้านกีฬานี้ สำหรับคนพิการคือการฟื้นฟูผู้พิการ ถือเป็นความมหัศจรรย์ทางการกีฬา เป็นการเปิดโลกให้ผู้พิการได้กลับคืนสู่สังคม เป็นคนที่มีประโยชน์และมีความสำคัญในครอบครัว สามารถสร้างรายได้ให้แก่ตนเอง ในโลกออนไลน์นั้นทำให้ผู้พิการเปรียบเสมือนเป็นคนปกติ ทั้งที่นักกีฬาแต่ละคนอาจจะมีปัญหาในเรื่องของแขน หรือขา หรือไม่มีมือและอาจจะเป็นกลุ่มที่เป็นอัมพาต แต่ก็สามารถเล่นกีฬานี้ได้
“ความภาคภูมิใจ คือการเสริมสร้างศักยภาพผู้พิการให้เข้าไปอยู่ในโลกออนไลน์เสมือนจริง ที่นอกจากจะสร้างกิจกรรมก็ยังสร้างความสุขที่จะมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขต่อไป จึงขอให้ กมธ.กีฬา สภาผู้แทนราษฎร สนับสนุน พ.ร.บ.อีสปอร์ต และการจัดการแข่งขันให้คนพิการไทยด้วย” นายไมตรีกล่าว
ด้าน น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล รองประธานคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ส่วนตัวไม่สบายใจในฐานะเป็นผู้ปกครอง แต่ก็ไม่ต่อต้าน เพราะเรื่องของโลกาภิวัตน์ การพัฒนาเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าอยู่เสมอ แต่คงต้องฝากให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ติดตามหรือหาวิธีการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความรุนแรง
ท้ายสุด ส.ส.ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา ประธานคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การผลักดันร่าง พ.ร.บ.อีสปอร์ตเป็นเรื่องของสภาฯ ซึ่งในอนาคตจะต้องมีการหารืออย่างละเอียดรอบคอบกันต่อไป จึงต้องฝากให้ กกท.กลับไปติดตามดูแลรายละเอียดควบคู่กันต่อไปด้วย