อธิบดีกรมฝนหลวงฯ ปรับแผนขึ้นบินทำฝนหลวงภาคอีสาน เร่งเติมน้ำในเขื่อน-ช่วยพื้นที่เกษตร

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - อธิบดีกรมฝนหลวงฯ เผยปัญหาฝนตกน้อยไม่ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำทั่วอีสาน สั่งปรับแผนใช้เครื่องบินลำเลียง CN325 บินขนสารทำฝนหลวงได้ครั้งละกว่า 2,000 กิโลฯ ขึ้นทำฝนหลวงทั้ง 20 จังหวัด คาดหวังให้ฝนตกในพื้นที่เป้าหมายเติมน้ำในเขื่อนและ ช่วยเหลือพื้นที่เกษตร


จากสถานการณ์ภัยแล้งกินเวลายาวนานต่อเนื่องมาจากปีกลายเพราะฝนทิ้งช่วง เขื่อนขนาดใหญ่และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางในหลายจังหวัดแทบทุกภูมิภาคอยู่ในภาวะแห้งขอด หลายแห่งน้ำแห้งถึงขั้นไม่สามารถสูบน้ำเข้าสู่กระบวนการผลิตน้ำประปาได้ หน่วยงานเกี่ยวข้องต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการขุดน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้ไปพลางก่อน

แม้ในห้วงนี้จะเข้าสู่ฤดูฝน แต่ผ่านไปกว่า 1 เดือนปริมาณฝนที่ตกก็ยังไม่มากพอที่จะเติมเข้าเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำให้เพิ่มระดับกักเก็บน้ำมากขึ้น หลายฝ่ายวิตกว่าหากเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงอีกปัญหาความแห้งแล้งจะหวนกลับมาทวีความรุนแรงซ้ำอีกปี

ล่าสุด นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงภาพรวมของปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมานับแต่เข้าฤดูฝนยังถือว่าน้อยมาก โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ พบว่าภัยแล้งได้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การทำนา พื้นที่ทำการเกษตร ที่สำคัญในตอนนี้ยังมีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนน้อยมาก ทั้งเขื่อนจุฬาภรณ์ อ่างเก็บน้ำห้วยทราย-ลำคันฉู จ.ชัยภูมิ, เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น, เขื่อนลำตะคอง เขื่อนลำพระเพลิง-ลำแซะ จ.นครราชสีมา


รวมถึงเขื่อนอื่นๆ ทั้งขนาดกลาง และขนาดเล็ก ที่กระจายอยู่ในพื้นที่ 20 จังหวัดภาคอีสาน แต่ละแห่งยังมีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ทำให้ศูนย์ปฏิบัติการทำฝนหลวงได้เลื่อนมาเปิดฐานปฏิบัติการเร็วขึ้น 1 เดือน จากเดิมต้องเปิดฐานปฏิบัติการในเดือนมีนาคม ร่นมาเป็นวันที่ 3 กุมภาพันธ์

สำหรับในพื้นที่ภาคอีสานเปิดพร้อมกัน 4 ศูนย์ ประกอบด้วย ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคอีสาน จ.ขอนแก่น, อุดรธานี, สุรินทร์ และศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคอีสานที่ จ.นครราชสีมา


นายสุรสีห์กล่าวอีกว่า การบินขึ้นทำฝนหลวงนั้นจะใช้เครื่องบินแบบ BT-67 เครื่องบินคาราแวน และเครื่องบินแบบกาซ่า การเลือกใช้งานขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละพื้นที่ ล่าสุดศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคอีสาน จ.ขอนแก่น ได้เปลี่ยนแผนใช้เครื่องบินลำเลียงแบบ CN 325 บินตรงมาสนับสนุนภารกิจในการบรรทุกสารทำฝนหลวงได้ครั้งละกว่า 2,000 กิโลกรัมต่อเที่ยวบิน ขึ้นทำฝนหลวงในพื้นที่ 20 จังหวัดภาคอีสาน เพื่อเพิ่มปริมาณฝนให้ตกลงในพื้นที่เป้าหมายช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูก

และเติมน้ำลงเขื่อนต่างๆ ใน 20 จังหวัดภาคอีสาน ในห้วงระยะของฤดูฝนที่เหลืออยู่อย่างเร่งด่วน หลังจากเครื่อง CN 325 เข้ามาสนับสนุนภารกิจก็ขึ้นทำฝนหลวงมาแล้ว 4 วัน คู่กับเครื่องทำฝนหลวงชนิดอื่น ซึ่งก็ทำให้มีฝนตกกระจายในพื้นที่ ลดความแห้งแล้งได้ในระดับหนึ่ง