รายงาน/ศูนย์ข่าวขอนแก่น - จับผิด ตู่-จตุพร พรหมพันธ์ เฟซบุ๊กไลฟ์โกหกคำโต อ้างกรณีตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง แกนนำ นปช.ไม่เห็นด้วยไม่มีส่วนรู้เห็นทั้งที่ความจริงตัวเองตะลอนเปิดป้ายหมู่บ้านทุกภาค โดยเฉพาะที่ จ.อุดรฯ มีหลักฐานภาพถ่ายเพียบ ซ้ำปลุกระดมสาวกหากหมู่บ้านเสื้อแดงแผ่ขยายจะทำให้รัฐบาลเข้มแข็งแก้ปัญหาให้ประชาชนได้
กลายเป็นเรื่องขำขันปนสมเพชที่หลายวันก่อน นายจตุพร พรหมพันธ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือที่หลายคนรู้เท่าทันมักจะเรียกว่า “คางคกตู่” ออกมาสร้างประเด็นให้ตัวเองได้เป็นข่าวอีกครั้ง ด้วยการเฟซบุ๊กไลฟ์ PEACETALK ตีสีหน้าขึงขัง ขอเปิดใจกรณี “หมู่บ้านคนเสื้อแดง” อ้างว่าร่วม 10 ปีที่ผ่านมาต้องทนทุกข์ทรมานตกอยู่ในสภาพน้ำท่วมปาก อึดอัด บอกใครไม่ได้ ต้องกลืนเลือดกับการถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในโต้โผก่อตั้งหมู่บ้านคนเสื้อแดงขึ้น... ซึ่งไม่เป็นความจริงใดๆ!!
การออกมาเฟซบุ๊กไลฟ์ครั้งนี้ของนายตู่เกิดขึ้นหลังจากมีคลิปว่อนโซเชียลในเหตุการณ์ที่ “แรมโบ้อีสาน” นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางไปรับมอบป้ายหมู่บ้านคนเสื้อแดงคืนจากชาวบ้านที่ จ.เชียงราย แต่ถูกพี่น้องกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งที่ยังยึดมั่นถือมั่นศรัทธา นช.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ รุมล้อมตะโกนต่อว่าเป็นคนเนรคุณ ไม่สำนึกบุญคุณอดีตเจ้านาย นช.ทักษิณ
นายจตุพรพยายามย้ำว่า การก่อตั้งหมู่บ้านคนเสื้อแดงทั้งในภาคอีสานหรือภูมิภาคอื่นทั่วไทยนั้น แกนนำ นปช.ซึ่งรวมถึงตัวเขา ไม่มีใครเห็นด้วย เพราะเป็นจุดอ่อนให้ฝ่ายศัตรู (ฝ่ายไม่เอาทักษิณ) โจมตีหาว่ากลุ่มคนเสื้อแดงภายใต้อาณัติของ นปช.เป็นพวกที่ต้องการล้มล้างการปกครอง พยายามล้มสถาบัน โดยรณรงค์ให้บ้านคนเสื้อแดงทุกหลังปลดรูปในหลวงลงจากฝาบ้านแล้วเอารูป “พ่อทักษิณ” ขึ้น...ทั้งที่ในความเป็นจริงไม่มีเรื่องเหล่านี้เลย ทำให้แกนนำ นปช.กลืนไม่เข้าคายไม่ออก น้ำท่วมปากมาตลอดร่วมทศวรรษ
“เมื่อเจ้าตัวคนก่อตั้งหมู่บ้านขึ้นมาสลัดทิ้ง ผมจึงไม่เสียดาย เพราะไม่เห็นด้วยมาตั้งแต่ต้น ที่ไม่พูดกันมา 10 ปีนั้นเพราะน้ำท่วมปาก เมื่อเจ้าตัวสลายเองก็ดี เราไม่ต้องแบกความเข้าใจผิดนี้โดยไม่จำเป็น มีแต่สร้างความเข้าใจผิดให้ฝ่ายศัตรู สร้างความชอบให้ฝ่ายมิตรที่คิดจะเอามาถ่วงดุลอำนาจ นปช.ส่วนกลาง ซึ่งความจริงพวกผมไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้นเลย” นายจตุพรพล่ามในเฟซบุ๊กไฟล์
คอการเมืองที่เกาะติดสถานการณ์ในห้วง 10 ปีที่ผ่านมา หลังดูเฟซบุ๊กไลฟ์ของนายตู่เสร็จ ร้อยทั้งร้อยต้องอดสบถไม่ได้ว่า “ไอ้ตอแหล! ไอ้สับปลับ กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง ยังมีหน้าโกหกอีก...” เพราะในความเป็นจริง การก่อตั้งหมู่บ้านคนเสื้อแดงที่มีนายอานนท์ แสนน่าน หนึ่งในกลุ่มคนเสื้อแดงระดับแกนนำในภาคอีสานเป็นคนขับเคลื่อนเริ่มแรกนั้น แกนนำ นปช. (กลุ่มคนเสื้อแดงเช่นกัน) รับรู้มาโดยตลอด
ทั้งในห้วงชุมนุมก่อนเกิดเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง เผาศาลากลางใน 4 จังหวัดภาคอีสานนั้น คนเสื้อแดงจากหมู่บ้านเสื้อแดงถูกปลุกระดมและถูกชักจูงให้เดินทางเข้าร่วมม็อบตลอด ถ้าไม่มีคนเสื้อแดงเหล่านี้ แกนนำ นปช.จะเอามวลชนเสื้อแดงมาจากไหน
ภาพหลักฐานที่นายจตุพรปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการก่อตั้งหมู่บ้านคนเสื้อแดงคือการตะลอนไปเปิดป้ายหมู่บ้านคนเสื้อแดงทั้งภาคอีสาน เหนือ ออก ใต้ เพื่อบ่มเพาะมวลชนไว้รอเรียกเข้าชุมนุมเป็นแนวร่วมเคลื่อนไหวต่อสู้กับพรรคการเมืองและประชาชนฝ่ายตรงข้าม
ขอหยิบยกให้เห็นภาพเป็นหลักฐานแค่บางส่วน กรณีเมื่อวันที่ 9 ต.ค. 54 (https://mgronline.com/local/detail/954000012862
2) นายจตุพร ขณะนั้นเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และเป็นแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ได้เดินทางไปทำพิธีเปิดป้าย “อำเภอเสื้อแดง” ที่บ้านนาม่วง ต.นาม่วง อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นอำเภอเสื้อแดงที่สองรองจาก อ.สร้างคอม
โดยมี พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์, กำนันทองดี มนิสาน, นางเทียบจุฑา ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำ นปช.จากส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และ นปช.ในพื้นที่นำคนเสื้อแดงในพื้นที่ร่วมเป็นสักขีพยาน
ในงาน นายจตุพรยังให้สัมภาษณ์ว่า ตนมีความเชื่อมั่นว่าถ้าหมู่บ้านคนเสื้อแดงได้มีการขยายไปได้ทั่วทั้งประเทศนั้น จะทำให้รัฐบาลเกิดเสถียรภาพและมีโอกาสแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน จึงเกิดคำพูดที่ว่า “หากพี่น้องเสื้อแดงมีความแข็งแรงมากเท่าไร รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะได้อยู่เป็นรัฐบาลนานเท่านั้น” ฉะนั้น หมู่บ้านเสื้อแดง อำเภอเสื้อแดง จังหวัดเสื้อแดงกำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งที่จังหวัดอุดรธานีคนเสื้อแดงมีความแข็งแรง การที่มีหมู่บ้านเสื้อแดงเต็มพื้นที่นั้น จะได้สร้างเสถียรภาพให้กับฝ่ายประชาธิปไตย
โดยสรุป การออกมาปั้นประเด็น ทำหน้าเศร้า เล่าความเท็จผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ของนายจตุพรครั้งนี้จึงไม่สามารถทำให้ใครเชื่อได้หรือคล้อยตาม เพราะความจริงคือความจริง หลายฝ่าย แม้แต่แกนนำ นปช.ด้วยกัน ยังงงและตั้งคำถามว่า นายจตุพรจะโกหกตัวเองไปทำไม จะหนีความจริงไปเพื่ออะไร!!
หรือจะด้วยความไม่พอใจหรืออิจฉาหรือไม่ ที่เห็น “แรมโบ้อีสาน” นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายอานนท์ แสนน่าน อดีตเพื่อนร่วมอุดมการณ์ เคยกินข้าวชามเดียวกัน เคยรับใช้นายคนเดียวกัน ปรับตัวปรับทัศนคติทางการเมือง ปลดแอกจากอุดมการณ์ที่ผิดๆ หันมาให้ความสำคัญเรื่องปากท้องของพี่น้องชาวบ้านที่ส่วนใหญ่ยังมีความเป็นอยู่ไม่สู้ดีนัก เพราะเศรษฐกิจย่ำแย่ ทำไร่ทำนามาไม่รู้กี่สิบปีก็ยังมีรายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง
โดยนายสุภรณ์ และนายอานนท์ รวมถึงคณะทำงานที่ประกอบด้วยกลุ่มบุคคลที่มากประสบการณ์หลากหลายอาชีพกำลังพยายามจะเข้าไปเป็นหนึ่งในฟันเฟืองตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร ภายใต้ "เครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย" ขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จาก “ร.๙ ถึง ร.๑๐
ถ้าเห็นแก่ชาติบ้านเมือง อยากให้นายจตุพร รวมถึงบรรดาแกนนำ นปช.ทั้งหลายสลัดทิ้งอคติทางการเมืองอันมืดบอดอย่างสุดโต่ง แล้วหันมาใช้เวลาบั้นปลายชีวิตที่เหลืออยู่ไม่มากนัก มุ่งทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคมประเทศชาติไม่ว่าจะทางใดก็ได้ ประเทศชาติบอบช้ำมามากแล้ว..แต่ถ้าทำใจให้หลุดพ้นจากกรอบคิดเดิมไม่ได้ ก็ขอให้อยู่เฉยๆ อย่างน้อยแผ่นดินนี้ก็เป็นที่อยู่อาศัยมาแต่บรรพบุรุษของตัวเอง!!