xs
xsm
sm
md
lg

เปิดใจพ่อค้าแม่ค้า เจ้าของรีสอร์ตชายหาดแม่รำพึง วันนี้หนักกว่าโควิด-19 รอบแรก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ระยอง - เปิดใจพ่อค้าแม่ค้า เจ้าของรีสอร์ตชายหาดแม่รำพึง บอกวันนี้หนักกว่าเจอโควิด-19 รอบแรก ชี้พิษทหารอียิปต์ทำกรุ๊ปทัวร์ นักท่องเที่ยวหายหมดทั้งที่เพิ่งเปิดบริการเมื่อ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ถามทำไมต้องเกิดกับชาวระยอง?

วันนี้ (15 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณถนนเลียบชายหาดแม่รำพึง ต.ตะพง อ.เมืองระยอง ว่า เป็นไปอย่างเงียบเหงาและแทบจะไม่รถยนต์วิ่งผ่านทำให้บรรดาร้านขายอาหาร และร้านค้าต่างๆ พลอยซบเซาตามไปด้วย

โดยแม่ค้ารายหนึ่งบอกว่า บรรยากาศเช่นนี้เริ่มมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังกระแสข่าวการพบทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 เข้ามาอยู่ในพื้นที่ทำให้ผู้ประกอบการต่างพากันเกรงว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะย่ำแย่กว่าช่วง 3 เดือนก่อน ทั้งที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด เพิ่งอนุญาตให้ผู้ประกอบการบริเวณชายหาดสามารถค้าขายได้เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา

"พอจะเริ่มมีนักท่องเที่ยวให้พ่อค้าแม่ค้าได้ทำมาหากินก็กลับมาเจอดีเหตุการณ์ทหารอียิปต์ขึ้นอีก ซึ่งกระแสข่าวรวดเร็วมากจนทำให้นักท่องเที่ยวหายจากพื้นที่ในพริบตา ซ้ำตั้งแต่เมื่อวานรถยนต์ที่จะวิ่งผ่านแทบไม่มีสักคัน วันนี้จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบเข้ามาช่วยเหลือและตรวจสอบอย่างละเอียดซึ่งหากพบว่าชาวระยอง ไม่มีผู้ติดเชื้อก็ขอให้รีบแถลงข่าวโดยเร็วเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เข้าใจระยอง ไม่ได้เป็นพื้นที่เสี่ยงโควิด-19" แม่ค้า กล่าว



เช่นเดียวกับ นายสมชาย นิธิพิรยาโภคิน ผู้ประกอบการชายตารีสอร์ต หาดแม่รำพึง บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทขายรถยี่ห้อดังซึ่งจองห้องพักล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อ 3 เดือนก่อนเพื่อนำพนักงานกว่า 100 คนเข้าพักในวันเสาร์ที่ 18 ก.ค.นี้ ยกเลิกการจองทั้งหมด

รวมทั้งคณะ อสม.จากจังหวัดภาคอีสาน รวม 6 อำเภอ ที่จะเดินทางมา จ.ระยอง โดยรถทัวร์รวม 11 เที่ยว ประมาณ 3,300 คนและจะเข้าพักกับทางรีสอร์ตตั้งแต่วันที่ 11 ส.ค.-17 ก.ย.2563 ก็ขอเลื่อนการเข้าพักแบบไม่มีกำหนด

“เมื่อวานนี้พอมีข่าวโควิด-19 บรรยากาศการท่องเที่ยวชายทะเลของระยองเงียบเหงาลงทันที ไม่มีทั้งคนและรถเข้ามาเลย ซึ่งหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายพวกเราคิดว่าจากนี้จะมีรายได้เข้ามาพอให้ฟื้นตัวได้บ้างหลังต้องปิดบริการไป 3 เดือน แต่วันนี้กลับต้องระวังอีกว่าจะเจอโควิด-19 รอบ 2 หรือไม่”


แต่สิ่งที่ซ้ำเติมชาวระยองมากขึ้นอีกก็คือการเสนอข่าวของสื่อบางสื่อที่บอกว่าใครที่เดินทางมา จ.ระยอง เมื่อกลับเข้าภูมิลำเนาจะถูกกักตัว 14 วัน เหตุการณ์เช่นนี้แม้รัฐบาลจะกระตุ้นให้เที่ยวฟรีก็คงไม่มีใครอยากมา

“ทำไมเหตุการณ์เช่นนี้ถึงต้องมาลงที่ จ.ระยอง เมื่อวานผมรับโทรศัพท์ขอเงินมัดจำคืนแทบไม่ไหวผมพยายามพูดให้ลูกค้าเลื่อนการเข้าพักออกไปแต่สุดท้ายก็ถูกปฏิเสธ และยืนยันที่จะขอเงินมัดจำคืนเราก็โอนคืนให้เพราะเราก็ต้องเห็นใจว่ามันสุดวิสัยจริงๆ และในวันที่ 25-27 ก.ค.นี้ ที่เป็นวันหยุดยาวมีแขกจองห้องพักไว้ 30 กว่าหลัง ก็ถูกยกเลิกและขอเงินมัดจำคืน จนเหลือยอดเข้าพักไม่ถึง 10%”


นายสมชาย ยังกล่าวอีกว่า การที่รัฐบาลออกมาพูดขอโทษคนระยอง และคนกรุงเทพฯ เพียงคำเดียวไม่ช่วยให้ความเสียหายที่เกิดกับผู้ประกอบการทั้งระบบดีขึ้นได้ ที่สำคัญวันนี้รัฐบาลได้เปิดให้มีการลงทะเบียนในโครงการท่องเที่ยว แต่สุดท้ายต้องถามว่าแล้วใครจะลงทะเบียนมาเที่ยวระยอง

“โควิด-19 รอบแรกว่าแย่แล้ว นี่ยังมาเจอรอบที่ 2 อีกทั้งที่เราเองก็มีรายจ่ายที่จะต้องผ่อนส่งธนาคารทั้งต้น และดอกเบี้ยเดือนละประมาณ 800,00 บาท แม้ช่วงนี้จะไม่ต้องผ่อนเงินต้นแต่ดอกเบี้ยก็ไม่หยุดและต้องส่งดอกเดือนละกว่า 1 แสนบาท วันนี้ถ้าขายกิจการได้ผมขายแล้วแต่ก็ต้องถามอีกว่าแล้วใครซื้อ” นายสมชายกล่าว


CK PLAZA ปลวกแดง ก็ช้ำถูกระบุเป็นพื้นที่เสี่ยง

นายชัยยงค์ คูเพ็ญวิจิตระการ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านปลวกแดง อ.ปลวกแดงจ.ระยอง เจ้าของธุรกิจห้างสรรพสินค้า CK PLAZA ปลวกแดง บอกว่า ตนเองก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่ได้รับความเดือดร้อนจากการนำเสนอข่าวหลังพบว่าเพจศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินโรคโควิด-19 อ.บ้านตาก จ.ตาก ได้เผยแพร่ข้อมูลว่าห้างของตนเองเป็นพื้นที่เสี่ยง พร้อมลงข้อมูลประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่เดินทางกลับมาจากจ.ระยอง ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. และกรุงเทพฯ วันที่ 10 ก.ค.2563 ต้องรายงานตัว และยังแจ้งว่า จ.ระยอง มีพื้นที่เสี่ยงเป็นโรงแรมแห่งหนึ่งและห้างสรรพสินค้า 3 แห่ง และหนึ่งในนั้นมีห้างซีเค ปลวกแดง (CK Plaza) รวมอยู่ด้วย

โดยการลงข่าวประชาสัมพันธ์ที่ไม่ตรงตามข้อเท็จจริงทำให้ตนเองได้รับความเสียหาย และถูกลูกค้ายกเลิกการจองบูทจำนวนหลายรายแล้ว


“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้จำเป็นต้องโทรศัพท์ไปสอบถามปลัดอำเภอบ้านตาก ถึงการข่าวประชาสัมพันธ์โดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมบอกว่าหากไม่ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษรก็จะแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งสุดท้าย นายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม นายอำเภอบ้านตาก ได้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงพร้อมขออภัยในการเผยแพร่ข้อมูลจนทำให้ ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อน”

นายชัยยงค์ ยังเผยอีกว่า การเผยแพร่ข่าวดังกล่าวแม้ที่สุดจะได้รับการขอโทษ แต่ห้างของตนเองก็ได้รับความเสียหายไปแล้ว ซ้ำยังทำให้ชาวบ้านปลวกแดง เกิดการหวาดผวาเพราะกลัวติดโรคโควิด-19 จนไม่ค่อยกล้าออกจากบ้าน วันนี้จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขสถานการณ์โดยเร็ว


กำลังโหลดความคิดเห็น