มุกดาหาร - คดี “น้องชมพู่” ทำวิถีชีวิตชาวบ้านกกกอกเปลี่ยนไป บ่นไปไหนไม่ได้อย่างเคย ทำมาหากินลำบาก แต่ละวันมีแต่คนเข้าหมู่บ้านมาหาข้อมูล ทั้งตำรวจ หมอผี หมอธรรม หมอไสย์และนักข่าว อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านไม่เชื่อว่า “ลุงพล” จะทำน้องชมพู่
จะครบ 2 เดือนเต็มในวันที่ 14 ก.ค.นี้แล้วนับจากพบศพ ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ บนภูเหล็กไฟในสภาพไม่สวมเสื้อผ้า โดยน้องชมพู่หายออกจากบ้านอย่างปริศนาวันที่ 11 พ.ค. บ้านน้องอยู่ในหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ระหว่างบ้านและจุดพบศพบนเขามีระยะทางราว 3 กม.
กระนั้นก็ตาม ล่วงเลยจนถึงวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถตามจับกุมคนร้ายที่เชื่อกันว่าหลอกล่อพาน้องเดินขึ้นไปบนภูเขา จะด้วยเหตุใดยังไม่มีใครทราบได้ เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องไขปริศนาให้กระจ่าง
แต่ผลกระทบที่ตามมาหลังจากพบศพน้องชมพู หมู่บ้านกกกอกกลายเป็นจุดปรากฏตัวของบรรดาหมอผี หมอธรรม หมอไสย์ ฤๅษี ที่อ้างแสดงตนว่ารู้และสัมผัสได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องชมพู่ แต่เอาเข้าจริงเป็นแค่เรื่องอวดอุตริ
นอกจากนี้ยังมีสื่อบางสำนักส่งทีมงานฝังตัวในพื้นที่คอยขุดคุ้ยข้อมูลนำไปเล่าข่าวทุกค่ำคืนแข่งกันอย่างดุเดือด จริงบ้างเท็จบ้างเล่าซ้ำวนไป จนสังคมอดจะตั้งข้อสังเกตไม่ได้ว่าประเด็นน้องชมพู่ สื่อกลุ่มนี้ทำหน้าที่เกินบทบาท เกินความพอดี ทำให้ตำรวจทำงานลำบาก
ที่สำคัญรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของชาวบ้าน แต่ละวันต้องมีใครสักคนในหมู่บ้านที่ถูกดักสัมภาษณ์ให้พูดถึงประเด็นไหนก็ได้ที่สามารถโยงเข้าประเด็นน้องชมพู่เสียชีวิต
ยายลอง หนึ่งในชาวบ้านกกกอก บอกว่า นับแต่เกิดเหตุน้องชมพู่ วิถีชีวิตของชาวบ้านกกกอกเปลี่ยนไป ไม่ได้ไปไหนมาไหนเหมือนแต่ก่อน ทำมาหากินลำบากมากขึ้น ชาวบ้านส่วนใหญ่อยู่อย่างหวาดกลัวจากข่าวที่ออกไปแต่ละวัน เพราะว่ายังจับคนร้ายไม่ได้ จะทำไร่ทำนาลงแขกก็ไม่ได้ ถ้าไม่มีเรื่องของน้อง ชาวบ้านก็คงลงแขกดำนาช่วยกันทั้งหมู่บ้านเสร็จหมดแล้ว
“ตอนนี้ก็รอให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ชาวบ้านกลัวจนหายกลัวแล้ว จะเก็บตัวอยู่แต่บ้านไม่ได้ ต้องออกไปทำมาหากิน ชาวบ้านเขาเดือดร้อน แม่ชมพู่เขาไม่เดือดร้อน เขาสบาย ไปโน่นนี่นั่นก็มีคนพาไป เขาไม่ได้ทำไร่ทำนา เขามี 3 คนพ่อแม่ลูก เขาไม่ลำบากหรอก แต่ส่วนใหญ่ชาวบ้านก็ลำบาก” ยายลองกล่าวและว่า
อย่างไรก็ตาม ตนเองคิดว่าลุงพลเป็นไปไม่ได้ที่จะทำน้องชมพู่ รู้จักลุงพลมาหลายปีแล้ว การันตีเลยว่าลุงพลไม่ใช่ฆาตกร และยายก็ไม่คิดว่าคนในหมู่บ้านกกกอก คนในหมู่บ้านไม่มีคนใจดำ มีแต่คนช่วยเหลือเผื่อแผ่กัน มีแต่ทะเลาะกันเรื่องเล็กๆ น้อยๆ คิดว่าต้องเป็นคนอื่นที่ทำ
“คนทำน่าจะเป็นคนที่ครอบครัวน้องรู้จัก น่าจะรู้เห็น เขาพูดออกมาแบบนั้น แต่ก่อนทำไมแม่น้องชมพู่ไม่พูด และล่าสุดเขาไปให้สัมภาษณ์ว่าแม่อัดอั้นใจมานานแล้ว แม่จะพูดแล้ว พวกยายก็ลุ้นอยู่ใครวะ พอบอกว่าลุงพล พวกเราอ่อนเลย มันเป็นไปไม่ได้”
ยายลองแสดงความเห็นอีกว่า ถ้าเป็นพวกเกี่ยวข้องเสพติดมันทำ พวกมันไม่น่าจะละเอียดปานนี้ มันต้องทิ้งหลักฐานไว้ พวกนี้มักจะสะเพร่า มันกินมันยังทิ้งมูลฝอยให้เห็น ยายว่าไม่ใช่ ถ้ามันร่วมมือลากขึ้นไปอาจจะใช่ คนทำมันน่าจะวางแผนไว้ล่วงหน้าตั้งนานแล้ว ขนาดพวกแม่ไปหาเสื้อยังเดินขึ้นเขาจนเมื่อย