มุกดาหาร - แม่ “น้องชมพู่” ยอมรับเป็นคนสั่งให้ “สะดิ้ง” โกหกว่านอนหลับขณะน้องสาวหายจากบ้าน อ้างหากลูกสาวให้การตามความจริงกลัวจะไม่ปลอดภัย ด้าน “ลุงพล” ท้าแม่ชมพู่พูดความจริงให้หมด ขณะที่ตำรวจออกประกาศให้ประชาชนในพื้นที่ใช้ชีวิตตามปกติ
จากกรณีเด็กหญิง อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ “น้องชมพู่” อายุ 3 ขวบ หายออกจากบ้านพักที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร วันที่ 11 พ.ค. 63 ต่อมาพบศพบริเวณภูเหล็กไฟ วันที่ 14 พ.ค. ห่างจากบ้านพักราว 5 กม. ลักษณะไม่สวมเสื้อ รวม 58 วันคดียังไม่คลี่คลาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (10 ก.ค.) นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ เปิดเผยถึงคดีว่า ตอนนี้คืบหน้าไปแล้วราว 70% ในฐานะแม่เป็นชาวบ้านจะสืบหาอะไรเองก็ไม่ได้ แต่ก็ให้ความร่วมมือกับตำรวจ ถ้าทางตำรวจไม่ทำ แม่ไม่รู้จะทำอย่างไร หวังพึ่งตำรวจ ตามที่กระแสสังคมว่าครอบครัวมีส่วนเกี่ยวข้องหรือเปล่านั้น แม่บอกว่าแล้วแต่สังคมจะมอง หลายคนหลายความคิด แต่ก็อยากให้เห็นใจคนเป็นแม่บ้าง นอกจากลูกตายแล้วยังมาตอบคำถามสังคมอีก แทบจะไม่เป็นคำถาม เป็นคำด่ามากกว่า
“ตอนนี้แม่เป็นห่วงน้องสะดิ้ง พี่สาวของชมพู่ ถ้าเกิดว่าคนร้ายรู้ว่าน้องไม่ได้นอนหลับตอนน้องชมพู่หายไปจะเกิดอะไรขึ้นกับน้องสะดิ้ง แม่ก็ปล่อยข่าวออกมาว่าน้องหลับตลอด เป็นห่วงความปลอดภัยของลูก ถ้าเกิดว่าคนร้ายดูข่าวอยู่รู้ว่าสะดิ้งไม่ได้นอนหลับตอนน้องหายไป” นางสาวิตรีกล่าว
ด้านนายไชยพล วิภา ลุงของน้องชมพู่ กล่าวว่า เมื่อวานได้ไปต่อดวงชะตา ทางลูกศิษย์ไม่ยอมให้เข้าไป กลัวไปกระทบกับหลวงปู่ มีสื่อโซเซียลได้ไปโจมตีพระอาจารย์ ซึ่งลูกศิษย์ท่านก็เป็นห่วงภาพลักษณ์ของวัด เข้าใจสื่อมีหลากหลาย และได้ปล่อยเต่า 2 ตัว ลงสระน้ำใหญ่ เป็นการสะเดาะเคราะห์ ทำมาแล้วก็สบายใจขึ้น เมื่อคืนก็หลับสบาย
ส่วนการสาบานตน ถ้าจะเอาให้หนักให้แม่นก็ต้องเอาให้ชัดเอาให้ชัวร์ว่ามีส่วนหรือไม่มีส่วน แบบที่ตนสาบานเมื่อวาน ให้คนทั้งประเทศทั้งโลกได้รับรู้ว่าเราไม่ได้ทำจริงๆ อีกฝ่ายสาบานไม่มีองค์ประกอบ ส่วนในวันที่ 14 พ.ค.วันที่พบศพน้องมีคนพูดว่าน้องขาดอาหารนั้น ลุงไม่ได้พูดประโยคนั้น
ส่วนในวันนี้ถ้าพ่อแม่น้องชมพู่กล้าที่มาพูดผ่านสื่อ คือพูดทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นในครอบครัวว่ามันเกิดอะไรบ้าง ให้เขารู้ว่าเรื่องขัดแย้งมันจะทำให้มาระวังมาระแวงคนที่เป็นญาติๆ กัน มันสมควรแล้วหรือที่จะพูดแบบนั้น แล้วเขาจะพูด เพราะความจริงต้องปรากฏว่ามันเกิดข้อขัดแย้งกับใครภายในครอบครัว มันใช่ตนหรือเปล่า เปิดโอกาสให้แม่เขาพูด ถ้าเขาไม่พูดก็สิทธิของเขา
จุดที่แม่น้องชมพู่สงสัยน่าจะเป็นไทม์ไลน์ของตน ตนก็บอกแล้วอย่าอิงสื่อมาก ให้ดูความจริง แต่ตนไม่สงสัยไทม์ไลน์เขา เขาบอกว่าเขามีไทม์ไลน์ มีพยาน ส่วนน้องสะดิ้งพูดว่ามีคนบังคับให้พูดว่านอนหลับ ในมุมมองของลุง ต้องขึ้นอยู่กับพยานแวดล้อม ต้องให้น้องสะดิ้งเป็นคนเปิดเผย หรือว่ามีแม่เขาบอกนั้นจะพูดลอยๆ ไม่ได้ต้องมีหลักฐาน
อย่างไรก็ตาม บ่ายวันเดียวกันนี้ได้มีแถลงการณ์จากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ความตอนหนึ่งระบุว่า ที่ผ่านมากระบวนการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านหมู่บ้านกกกอก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร และอำเภอใกล้เคียงเป็นอย่างดี
จึงขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่หมู่บ้านกกกอก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร, อำเภอเต่างอย จ.สกลนคร, อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงได้โปรดดำเนินชีวิตตามปกติต่อไป ไม่ต้องหวาดระแวงหรือตื่นตกใจกลัวในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะถูกเชิญตัวไปสอบสวนหรือถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นคนร้ายหรือผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการไปตามกรอบแห่งกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชนโดยเคร่งครัด จะไม่กระทำการใดให้กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชนแต่อย่างใด
จึงขอความร่วมมือและทำความเข้าใจมา ณ โอกาสนี้ หากพี่น้องประชาชนท่านใดมีเบาะแสเกี่ยวกับคดี หรือมีข้อกังวลใจใดๆ สามารถติดต่อแจ้งข้อมูลได้ที่ พล.ต.ต.อรรคพงศ์ พิมลศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร หมายเลขโทรศัพท์ 08-6863-4004 ได้ตลอดเวลา