ศรีสะเกษ - ยายชาวศรีสะเกษวัย 63 ปี กับพวกไปหาเก็บเห็ดมากินประทังชีวิต โดน จนท.แจ้งจับบุกรุกและลักลอบเก็บเห็ดที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ ขณะ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษเผยให้ความเป็นธรรมเต็มที่ เจรจาไกล่เกลี่ยแล้วแต่ส่วนราชการเจ้าของพื้นที่ไม่ยอมความให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (8 ก.ค.) ที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธานินทร์ อินทร์กอง รอง ผกก.(สอบสวน) และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เร่งดำเนินการสอบปากคำ นางปราณี โยแก้ว อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/3 หมู่ 7 บ้านบัวระรมย์ ต.ตองปิด อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ, นางบุญมี อิทธิเดช อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 หมู่ 7 ตำบลเดียวกัน และ นางทัศศอร โยแก้ว อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ 7 ตำบลเดียวกัน
เนื่องจาก นายประธาน ตันรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ ได้มีหนังสือมอบหมายเจ้าหน้าที่คนหนึ่งให้มาแจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากทั้ง 3 คนได้บุกรุกเข้าไปในพื้นที่บริเวณสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่เขต ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ และลักลอบเก็บเห็ดโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 8 ก.ค. 2563 ที่ผ่านมา
จากการสอบสวน นางทัศศอร โยแก้ว อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ 7 บ้านบัวระรมย์ ต.ตองปิด อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุพวกตนทั้ง 3 คนได้พากันอาศัยรถของเพื่อนบ้านเพื่อออกตระเวนหาเก็บเห็ดขมยูคาลิปตัสที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติใต้โคนต้นยูคาลิปตัส เพื่อจะได้นำมาเป็นอาหารประทังชีวิตในครอบครัว เนื่องจากพวกตนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถจะไปทำงานหารายได้มาเลี้ยงครอบครัวได้
โดยได้พากันไปหาเก็บเห็ดที่ป่าบ้านหนองม่วงหนองสวง ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้เห็ดขมมาคนละประมาณ 7-10 ดอก และหลังจากตระเวนหาเก็บเห็ดแล้วไม่มีเห็ดขมให้เก็บได้อีก จึงได้พากันอาศัยรถของเพื่อนบ้านเพื่อพากันมาหาเก็บเห็ดที่ป่ายูคาลิปตัสอยู่ริมถนนทางไปมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ
นางทัศศอรให้การต่อไปว่า พวกตนพากันลงจากรถแล้วถือตะกร้าและเสียมพากันเดินเข้าไปในป่ายูคาลิปตัส โดยที่บริเวณดังกล่าวไม่มีการกั้นรั้วไว้แต่อย่างใด และไม่ทราบว่าเป็นพื้นที่ของใคร แต่พวกตนเพียงแค่ต้องการมาหาเก็บเห็ดขมไปกินประทังชีวิตเท่านั้น และปรากฏว่า นางปราณี โยแก้ว อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นแม่ย่าของตนได้เดินล่วงหน้าเข้าไปในป่าห่างจากริมถนนประมาณ 70 เมตร พวกตนเกรงว่านางปราณีจะหลงป่า เนื่องจากว่าสุขภาพร่างกายและสายตาไม่ค่อยดี แต่เมื่อตามหาเข้าไปในป่าพบว่านางปราณีโดนเจ้าหน้าที่ของสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษจับกุมเอาไว้แล้ว และเจ้าหน้าที่ยังได้จับกุมตนและนางบุญมีที่เดินตามหลังกันมาด้วย โดยที่บริเวณป่ายูคาลิปตัสแห่งนี้พวกตนยังเก็บเห็ดไม่ได้แม้แต่ดอกเดียวเนื่องจากยังไม่พบเห็ดขมแต่อย่างใด
จากนั้นเจ้าหน้าที่สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองศรีสะเกษมาจับกุมพวกตนพร้อมด้วยตระกร้าที่มีเห็ดขมดอกเล็กๆ อยู่ในตระกร้าคนละ 7-10 ดอก และเสียม 3 เล่ม มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการและลักลอบเก็บเห็ดโดยไม่ได้รับอนุญาต
พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า เรื่องนี้ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ธานินทร์ อินทร์กอง รอง ผกก.(สอบสวน) พยายามเจรจาไกล่เกลี่ยและให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยให้ดูเจตนาของชาวบ้านด้วย โดยได้ประสานงานไปยัง นายสมเกียรติ ศรีขาว นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ เพื่อขอให้ช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยกับหัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษด้วยเพื่อไม่ให้เอาเรื่องกับชาวบ้านทั้ง 3 คน แต่ไม่สามารถที่จะไกล่เกลี่ยกันได้ เนื่องจากว่าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษไม่ยินยอมยืนยันให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ตนจึงได้สั่งการให้นำตัวชาวบ้านทั้ง 3 คนที่ถูกกล่าวหามาทำการสอบสวน สืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินการตามขั้นตอนในชั้นสอบสวน
พ.ต.อ.เทพพิทักษ์กล่าวต่อว่า กรณีดังกล่าวหากสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วพบว่าไม่ผิด ไม่ครบองค์ประกอบความผิด ชาวบ้านทั้ง 3 คนไม่ได้มีเจตนาที่จะเข้าไปบุกรุก หรือหลักฐานไม่เพียงพอ พนักงานสอบสวนก็จะได้รีบดำเนินการสั่งไม่ฟ้อง หรือถ้าสอบสวนแล้วมีเจตนาบุกรุกเข้าไปรบกวนสิทธิคนอื่น หลักฐานครบก็จะดำเนินการส่งฟ้อง ตามหลักกระบวนการยุติธรรม แต่ในชั้นนี้พนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อเท็จจริง ตามที่ผู้เสียหายมาแจ้งให้ทราบเท่านั้น โดยยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ และชาวบ้านทั้ง 3 คนนี้ยังไม่ได้ถูกตำรวจจับกุมตัวแต่อย่างใด และยังไม่ต้องเข้าห้องควบคุม หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการสอบปากคำแล้วจะได้ปล่อยตัวชาวบ้านทั้ง 3 คนกลับบ้านไป และจะได้นัดหมายมาให้ปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่งต่อไป