xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิรัตน์” ลั่นไม่สนการเมือง ขอเดินหน้านำพลังงานรุกแก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานราก-ปากท้อง ปชช.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลำปาง - รมว.พลังงานย้ำเดินหน้าโรงไฟฟ้าชุมชน-พลังงานสร้างชาติ เผย “แม่แจ่มโมเดล” พิสูจน์ให้เห็นแล้ว ลั่นแยกการทำงานออกจากการเมือง นำ ก.พลังงานรุกแก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานราก ปัญหาปากท้องชาวบ้าน


บ่ายวันนี้ (4 ก.ค.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนไผ่เพชรล้านนา บ้านห้วยพระเจ้า ต.แม่สุก อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ที่เป็นศูนย์เรียนรู้การขยายพันธุ์ไผ่ครบวงจรในภาคเหนือ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ชุมชน มีความเข้มแข็ง สอดคล้องกับนโยบายพลังงาน Energy for All สร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก โดยการส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชนและเปิดโอกาสให้ชุมชน วิสาหกิจชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าร่วมกัน

โอกาสนี้ นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ที่ร่วมให้การต้อนรับพร้อมกับผู้แทนเกษตรกร ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ระบุว่า ที่ผ่านมาสภาเกษตรกรฯ เคยเสนอโครงการพืชพลังงานให้กับรัฐมนตรีหลายคนมากว่า 20 ปี แต่ไม่เคยมีใครสนใจ มีเพียงรัฐมนตรีคนล่าสุดคือนายสนธิรัตน์ ที่เข้าใจและต้องการทำให้โครงการนี้เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ของชาวบ้านที่แท้จริง ซึ่งโครงการนี้ไม่ใช่เรื่องการเมืองแต่เป็นเรื่องการบ้าน เมื่อรัฐมนตรีเริ่มคิดแล้วก็ขอให้รีบดำเนินการ ชาวบ้านจะคอยให้การสนับสนุนเต็มที่

ด้านนายสนธิรัตน์กล่าวว่า ยินดีที่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนไผ่เพชรล้านนาแห่งนี้ ที่ผ่านมาก็ได้ลงพื้นที่ดูงานชุมชนหลายแห่งที่ใช้พลังงานไปหมุนเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นแม่แจ่มโมเดล กาญจนบุรีโมเดล ผาปังโมเดล


โดยเฉพาะ “แม่แจ่มโมเดล” ที่เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพด้านวัตถุดิบที่จะสามารถใช้ผลิตพลังงานหมุนเวียน สามารถสร้างโมเดลโรงไฟฟ้าชุมชนจากซังข้าวโพด ทำให้ชาวบ้านมีรายได้จากการขายไฟฟ้า รายได้จากการขายซังข้าวโพด ทำให้แก้ไขปัญหาหนี้สินให้ชาวบ้าน มีรายได้เพิ่มมากขึ้นและเข้าถึงแหล่งพลังงานได้ จึงอยากให้แจ้ห่มเป็นโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนนำร่อง ซึ่งไม่ใช่การตั้งโรงไฟฟ้า แต่นำพืชเศรษฐกิจคือไผ่และต้นเนเปียร์มาทำเป็นเชื้อเพลิงสร้างพลังงาน เพื่อให้ชาวบ้านมีรายได้อย่างยั่งยืนต่อไป

รมว.พลังงานย้ำว่า ต้องการพลิกมิติด้านพลังงานให้ตอบโจทย์กลุ่มพี่น้องเกษตรกร และประชาชนทุกพื้นที่ทั่วประเทศให้สามารถเป็นเจ้าของพลังงานได้ โดยผลักดันนโยบายด้านพลังงานไฟฟ้าให้มีบทบาทในการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้จากการจำหน่ายวัสดุทางการเกษตรเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ยกระดับชุมชนสู่การเป็นผู้ผลิต ผู้ใช้ และผู้จำหน่ายไฟฟ้า ส่งเสริมการพัฒนาโรงไฟฟ้าชุมชนโดยใช้เชื้อเพลิงพลังงานหมุนเวียนตามศักยภาพรายพื้นที่ ก่อให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก สร้างความเข้มแข็งในชุมชน ลดการย้ายถิ่นฐานของแรงงาน เปิดโอกาสให้ภาครัฐ เอกชน ร่วมกับชุมชน จัดตั้งโรงไฟฟ้าชุมชน โดยยึดหลักให้ชุมชนได้ผลประโยชน์สูงสุด


นายสนธิรัตน์ได้ตอบคำถามของสื่อมวลชน กรณีที่หากมีการปรับ ครม.แล้วอาจจะไม่ได้นั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีพลังงานแล้วโครงการนี้จะเดินหน้าต่อหรือไม่ ว่าเรื่องนโยบายขณะนี้ได้เดินหน้าไปแล้ว เช่น โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน พืชพลังงานต่างๆ อยู่ในแผนของกระทรวงพลังงานทั้งสิ้น ไม่ว่าจะผ่านคณะกรรมการพลังงานแห่งชาติไปแล้ว และคาดว่าวันอังคารที่จะถึงนี้จะเข้าสู่การพิจารณาอยู่ในแผนหลักของประเทศ จากนั้นโครงการต่างๆ เหล่านี้ก็จะเดินหน้าตามแผน

ส่วนเรื่องที่บอกว่าน้อยใจกับการทำโครงการนี้จริงไหม นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ไม่จริง เรื่องการทำงานก็คือการทำงานต้องแยกแยะออกจากเรื่องการเมือง ส่วนที่ว่าจะอยู่อีกนานหรือไม่นั้น ขณะนี้คือต้องเร่งทำงานให้มากขึ้น ในภาวะอย่างนี้ก็อย่าเสียสมาธิเรื่องการเมือง หน้าที่เราคือการทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดจะขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงพลังงานให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ได้มากที่สุด นั้นคือการนำเรื่องของโครงการพลังงานสร้างชาติเข้าเสนอ ครม.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็หวังเน้นให้กระทรวงพลังงานมีบทบาทในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศในเชิงรุก ไม่ใช่ตั้งรับ ก็จะเดินหน้าต่อเนื่องอยู่


กำลังโหลดความคิดเห็น